เวียงจันทน์ 8 ก.ย.- นายกฯ เสนอให้สร้างความเข้มแข็งให้ EAS เป็นเวทีหารือเชิงยุทธศาสตร์ในระดับผู้นำในภูมิภาค ที่มีอาเซียนเป็นแกนกลาง เพื่อรับมือกับความท้าทายในปัจจุบัน พร้อมให้ความมั่นใจว่า ไทยกำลังเดินหน้าสู่การเลือกตั้งตามโรดแมป
มนชนก พัฒนพงศ์ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ที่ติดตามภารกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 28 – 29 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ณ นครเวียงจันทน์ สปป.ลาว ระหว่างวันที่ 6-8 กันยายน นี้ รายงานว่า นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (EAS) ครั้งที่ 11 ประกอบด้วยผู้นำอาเซียน 10 ประเทศ และผู้นำจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐฯ และรัสเซีย
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกฝ่ายต้องร่วมสร้างความเข้มแข็งให้ EAS เป็นเวทีหารือเชิงยุทธศาสตร์ในระดับผู้นำในภูมิภาค ที่มีอาเซียนเป็นแกนกลาง เพื่อให้ความร่วมมือในกรอบ EAS เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป เพื่อสันติภาพ เสถียรภาพและความรุ่งเรืองของภูมิภาค
“ด้วยความท้าทายในปัจจุบัน ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก กำลังถูกทดสอบความแข็งแกร่ง ว่าจะสามารถรักษาบทบาทสำคัญนี้ต่อไปได้อย่างไร เพราะศักยภาพทางเศรษฐกิจ เป็นแรงดึงดูดให้ประเทศต่าง ๆ หันมาขยายบทบาทด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมในภูมิภาคมากยิ่งขึ้น ดังนั้น เราต้องให้ความสำคัญกับการรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจให้เป็นไปอย่างยั่งยืน ผ่านการบูรณาการทางเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ และกรอบความร่วมมือต่าง ๆ ควรเสริมซึ่งกันและกันอย่างมีนัยสำคัญ ตลอดจนสนับสนุนการสร้างประชาคมอาเซียน และบทบาทนำของอาเซียน ในการสร้างดุลยภาพใหม่ทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาคนี้” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยเห็นถึงความจำเป็นอย่างยิ่งยวด ที่จะต้องเร่งส่งเสริมความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมในกรอบ EAS เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรับมือกับประเด็นท้าทายหลัก ๆ ของศตวรรษนี้ ทั้งปัญหาการค้ามนุษย์ การโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ ปัญหาทะเลจีนใต้ และ ปัญหาคาบสมุทรเกาหลี
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย ว่า ประเทศไทยกำลังเดินหน้าปฏิรูปในระยะที่ 2 โดยการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา เสียงส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ จึงขอให้มั่นใจได้ว่าการดำเนินการทุกอย่างจะเป็นไปตามโรดแมปที่รัฐบาลประกาศไว้ เพื่อนำพาประเทศไปสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ มีธรรมาภิบาล และความรับผิดชอบ เพื่อกลับคืนสู่ประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง สังคมที่ปรองดอง และมีเสถียรภาพ ซึ่งจะมีส่วนเสริมสร้างความมั่นคงให้แก่อาเซียนและโลกในภาพรวม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก (EAS) ครั้งที่ 11 ซึ่งเป็นการประชุมสุดท้าย นายกรัฐมนตรีได้ร่วมพิธีปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 28 – 29 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และพิธีการส่งมอบตำแหน่งประธานอาเซียนของสปป.ลาวให้แก่ฟิลิปปินส์ จากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางออกจากศูนย์ประชุมแห่งชาติ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติวัดไต เพื่อเดินทางกลับประเทศไทยทันที.- สำนักข่าวไทย