ไทเป 21 พ.ย.- ไต้หวันจะเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะเป็นบททดสอบรัฐบาลประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินในวันเสาร์นี้ และจะลงประชามติในประเด็นสำคัญหลายเรื่องที่อาจทำให้จีนไม่พอใจ
การเลือกตั้งท้องถิ่นวันเสาร์นี้เป็นการเลือกระดับหมู่บ้านขึ้นไป รวมถึงนายกเทศมนตรีใน 22 เมืองและเทศมณฑล ปัจจุบันพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (ดีพีพี) ของรัฐบาลครองอยู่ 13 เมืองและเทศมณฑล ผลการเลือกตั้งท้องถิ่นอาจส่งผลต่อการเลือกตั้งรัฐสภาและประธานาธิบดีในปี 2563 ผลการหยั่งเสียงชี้ว่า พรรคดีพีพีเสี่ยงเสียที่นั่งเพราะประชาชนไม่พอใจมากขึ้นเรื่องเศรษฐกิจชะงักงันและนโยบายปฏิรูปที่มีการตัดลดบำนาญและวันหยุดราชการ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของไต้หวันขยายตัวร้อยละ 2.89 เมื่อปีก่อน และคาดว่าจะขยายตัวลดลงเหลือร้อยละ 2.69 ในปีนี้ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมองว่า ประโยชน์ทางเศรษฐกิจลงมาไม่ถึงคนทั่วไปที่มีรายได้ลดลงแต่ค่าครองชีพสูงขึ้น
นอกจากนี้ยังจะมีการลงประชามติใน 10 ประเด็นที่กลุ่มต่าง ๆ ยื่นเสนอ ประเด็นที่ถกเถียงกันมากที่สุดคือ ไต้หวันควรจะเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก 2020 ในชื่อ “ไต้หวัน” ไม่ใช่ “ไชนีสไทเป” ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันหรือไม่ คณะกรรมการโอลิมปิกเตือนว่า หากเปลี่ยนชื่ออาจทำให้ไต้หวันพ้นสมาชิกภาพ เพราะคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) แสดงจุดยืนชัดเจนแล้วว่าจะไม่ยอมรับการเปลี่ยนชื่อ ทั้งนี้หากร้อยละ 25 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 19.76 ล้านคนลงมติเห็นชอบให้เปลี่ยนชื่อ รัฐบาลจะต้องดำเนินการตามผลการลงประชามติ แม้คณะกรรมการโอลิมปิกไต้หวันไม่จำเป็นต้องยื่นขอเปลี่ยนชื่อต่อไอโอซีก็ตาม.- สำนักข่าวไทย