นครสวรรค์ 16 พ.ย. – ตำรวจเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน คดีหมอคลินิกเอกชนข่มขืนคนไข้ เพื่อสรุปสำนวนส่งอัยการ แม้เจ้าตัวจะปฏิเสธข้อกล่าวหา
ความคืบหน้า กรณีหญิงไปแจ้งความถูกหมอคลินิกเอกชนแห่งหนึ่งข่มขืน ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ นายแพทย์คนดังกล่าวออกมาเปิดเผยว่า ยังไม่ขอพูดอะไร เพราะสงสารผู้เสียหาย กลัวจะคิดสั้นหรือเครียดไปมากกว่านี้ ยอมรับที่ผ่านมามีการติดต่อกัน แต่ทุกอย่างเป็นการพูดคุยเชิงเทคนิคทางการแพทย์ เช่น หมอใช้คำว่า “ที่รัก” เพื่อกระตุ้นการรักษาเท่านั้น เพราะทราบว่าคนไข้เป็นอย่างไร แต่บางอย่างเป็นเรื่องของจรรยาบรรณไม่สามารถเปิดเผยได้ จึงขอไม่ตอบโต้จะขอไปสู้ในชั้นศาลต่อไป ทั้งสงสารมารดาตัวเอง ที่เครียดมาก หลังมีข่าวแพร่กระจายออกมา แม้จะเกิดเรื่อง แต่ก็ยังคงมาทำงานตามปกติ ทั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ และคลินิกส่วนตัว เพราะขณะนี้ได้ชี้แจงกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลไปหมดแล้ว ซึ่งทางโรงพยาบาลได้รายงานไปยังปลัดกระทรวงฯ ทราบตามกรอบราชการ เมื่อคืนได้ปรึกษาครอบครัวตั้งทนายต่อสู้คดีต่อไป ส่วนแพทย์สภาจะมาตรวจสอบหรือสอบสวนก็ยินดี และจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ พร้อมชี้แจงทุกประเด็น ยังยืนยันว่าเป็นการรักษาและเป็นการเข้าใจผิดของคนไข้
ด้าน ร.ต.อ.รัชพล ขวัญเซ่ง ร้อยเวรเจ้าของคดีเปิดเผยว่า หลังแจ้ง 2 ข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาเมื่อวาน ได้ส่งสำนวน
การสอบสวนให้หัวหน้าพนักงานสอบสวนแล้ว เบื้องต้นผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธไม่ขอให้การ และจะไปให้การในชั้นศาล ขณะนี้กำลังรอผลตรวจพิมพ์ลายนิ้วมือจาก พฐ. คาดว่าใช้เวลาประมาณ 10–15 วัน จึงจะสามารถสรุปสำนวนส่งฟ้องได้ ส่วนผลตรวจพิสูจน์ผู้เสียหายจากโรงพยาบาลตำรวจ ไม่พบคราบอสุจิ พบร่องรอยบางอย่างเท่านั้น เนื่องจากผู้เสียหายไม่ได้เดินทางมาตรวจในทันที แต่ทิ้งไว้นานกว่า 10 วัน และตำรวจไปตรวจที่คลินิกผู้ต้องหาก็ทำได้ตามกฎหมายเท่านั้น บางกรณีเป็นสิทธิ์ที่ผู้ต้องหาขอสวนไว้ตามกฎหมาย และไม่อนุญาตให้บุคคลอื่นเข้าไปในคลินิกด้วย ทั้งนี้ยังไม่ได้ส่งสำนวนหรือนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังศาลแต่อย่างใด เนื่องจากผู้ต้องหามีหลักแหล่งชัดเจน ไปส่งศาลก็คงไม่รับฝากขัง จึงต้องรอระยะเวลาประมาณ 10–15 วัน จึงจะส่งฟ้องศาล
นายแพทย์สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุขเผย ได้มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข ที่ดูแลจังหวัดนครสวรรค์ ลงไปติดตามเรื่องนี้พร้อมกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแล้ว เพราะเกี่ยวข้องกับจริยธรรมแพทย์ ส่วนเรื่องมาตรฐานก็ต้องไปดูที่คลินิกว่า ได้รับมาตรฐานหรือไม่อย่างไร แต่ในส่วนที่ระบุว่า แพทย์ดังกล่าวทำงานโรงพยาบาลรัฐ ได้กำชับให้ไปตรวจสอบ ส่วนการพักงาน ต้องขอติดตามผลการสอบสวนก่อนว่าเป็นอย่างไร และคดีข่มขืนเป็นคดีอาญา ซึ่งต้องมีการลงโทษทางวินัยอยู่แล้ว
ขณะที่นายแพทย์บุญชัย ธีระกาญจน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขที่ดูแลจังหวัดนครสวรรค์ระบุ เรื่องนี้เกิดขึ้นในคลินิกส่วนตัว ไม่ใช่สถานที่ราชการ แต่แพทย์คนดังกล่าวยังรับราชการอยู่ ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย อาจนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง เพราะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของราชการ แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เป็นพฤติกรรมเฉพาะคน และยังไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร
ในส่วนของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้กำชับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการอย่างตรงไป ตรงมา ด้วยความรวดเร็ว เป็นธรรม อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ พร้อมกำชับฝ่ายสืบสวนสืบหาข้อมูล จากพยานบุคคลและพยานแวดล้อมต่างๆ .- สำนักข่าวไทย