สำนักงาน กกต. 5 พ.ย.- พรรคไทยรักษาชาติ เปลี่ยนชื่อจากพรรคไทยรวมพลังพร้อมแจ้งขออนุญาตประชุมเลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารใหม่ 7 พ.ย.
ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ว่า จากกรณีที่พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ซึ่งถูกระบุว่าเป็นหนึ่งในพรรคสาขาของพรรคเพื่อไทยจะมีการประชุมเปิดตัวในวันที่ 7 พ.ย.นั้น พบว่า พรรคไทยรักษาชาติ เป็นพรรคการเมืองที่ถูกเปลี่ยนชื่อมาจากพรรคไทยรวมพลัง โดยมีการประชุมใหญ่ของพรรคเพื่อแก้ไขข้อบังคับพรรค จัดทำคำประกาศอุดมการณ์ทางการเมือง และนโยบายของพรรค แจ้งเปลี่ยนแปลงจำนวนสมาชิกพรรคตามมาตรา 141 วรรคหนึ่ง (1) พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 และคำสั่งคสช.ที่ 13 /2561 กำหนด รวมทั้งมีมติให้เปลี่ยนชื่อจากพรรคไทยรวมพลัง เป็นพรรคไทยรักษาชาติ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ซึ่งตามกฎหมายพรรคการเมืองใหม่กำหนดให้เมื่อที่ประชุมใหญ่ของพรรคเห็นชอบก็ให้ถือว่ามีผลทางกฎหมายโดยสมบูรณ์และแจ้งต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง เพื่อประกาศการแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษา
ดังนั้นจึงถือว่าพรรคไทยรักษาชาติเป็นพรรคการเมืองแล้วตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. สามารถดำเนินกิจการพรรคการเมืองได้ทันที ไม่ต้องรอการอนุมัติจากนายทะเบียนพรรคการเมือง เหมือนเช่นการจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ โดยขณะนี้ทางพรรคไทยรักษาชาติมีการแจ้งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมายังนายทะเบียนพรรคการเมืองเมื่อวันที่ 16 ต.ค. รวมทั้งแจ้งว่านายกมล วิจิตรโสภา นายทะเบียนสมาชิกพรรคที่ทำหน้าที่แทนหัวหน้าพรรค ได้แจ้งขอลาออกจากการทำหน้าที่หัวหน้าพรรค ซึ่งพรรคแจ้งขออนุญาต จัดประชุมเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ในวันที่ 7 พ.ย.
อย่างไรก็ตามขณะนี้ในเรื่องการเปลี่ยนแปลงชื่อพรรค ยังอยู่ระหว่างนายทะเบียนพรรคการเมือง ตรวจสอบความถูกต้อง และอาจจะรอการแจ้งผลประชุมคัดเลือกหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ก่อน จึงจะมีการประกาศการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษา ทำให้ตามข้อมูลพรรคการเมืองที่ยังดำเนินกิจการอยู่ของสำนักงาน กกต. ณ.วันที่ 31 ต.ค. ยังไม่มีชื่อพรรคไทยรักษาชาติ โดยยังเป็นชื่อพรรคไทยรวมพลัง (ทรพ.) จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 27 ก.ค.52 มีนาย กมล วิจิตรโสภา นายทะเบียนสมาชิกพรรคทำหน้าที่แทนหัวหน้าพรรค นายศิริเมศร์ เสถียรรุจิกานนท์ เป็นเลขาธิการพรรค มีคณะกรรมการบริหารพรรค 7 คน มีสมาชิกพรรครวม 1,340 คน มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ 86/114 ซ.อินทรามระ 25 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพ .-สำนักข่าวไทย
