กระบี่ 2 พ.ย. – ชุมชนบ้านบางเหลียว หมู่ 2 ต.คีรีวง อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ แหล่งปลูกกาแฟขึ้นชื่อส่งขายบริษัทผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่ในประเทศ ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังคือ ถ้ำวารีริน ที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาตินิยมเดินทางไปเที่ยวชมธรรมชาติจำนวนมาก เนื่องจากเป็นถ้ำที่มีธารน้ำใสไหลผ่านตลอดปี นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ “กาแฟมูลค้างคาว” ที่กำลังได้รับความนิยมจากคอกาแฟ ด้วยรสชาติที่กลมกล่อม กำลังดี มีเอกลักษณ์ ไม่ขมจนเกินไป และได้รับการรับรองจากพัฒนาชุมชนให้เป็นสินค้า OTOP ประจำตำบล หลังจากที่ไปเปิดบูธ จำหน่ายตามงาน OTOP ต่างๆ ปรากฏว่ารสชาติถูกปากคอกาแฟ มีลูกค้าสั่งซื้อไม่ขาดสาย จนผลิตไม่ทัน ราคาขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 500 บาท ล่าสุดได้รับการติดต่อให้ไปจำหน่ายในประเทศเพื่อนบ้านด้วย
นายเขตร เทพชัย อายุ 52 ปี ประธานสภา อบต.คีรีวง เปิดเผยว่า ที่มาของกาแฟมูลค้างคาว สืบเนื่องจากเมื่อประมาณ 7 ปีก่อน ภายในถ้ำวารีริน ซึ่งปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในพื้นที่ มีฝูงค้างคาวอาศัยอยู่นับหมื่นตัว ตนและชาวบ้านบางส่วนนำมูลค้างคาวจากภายในถ้ำไปใช้เป็นปุ๋ยใส่พืชผัก ปรากฏฎว่าในมูลค้างคาวมีต้นกล้าของกาแฟงอกขึ้นมา จึงนำมูลค้างคาวมาตรวจก็พบว่าเมล็ดกาแฟจำนวนมาก คาดว่าค้างคาวออกมากินเมล็ดกาแฟที่ชาวบ้านปลูกไว้ในพื้นที่ แล้วถ่ายเป็นมูลออกมา ตนจึงนำเมล็ดมาเพาะปลูกในที่ดินของญาติๆ ในเนื้อที่ประมาณ10 ไร่ ผ่านไป 4-5 ปี ก็เก็บเกี่ยวเมล็ดกาแฟได้ และลองเอาเมล็ดกาแฟที่เก็บได้จากต้นมาคั่วบดเอง โดยไม่ใช้เครื่องจักร ปรากฏว่ามีรสชาติที่แตกต่างจากกาแฟทั่วไป จึงลองชงให้เพื่อนๆ และนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวลองชิมกัน ปรากฏว่ารสชาติดี เป็นที่ชื่นชอบของคอกาแฟ เพราะมีรสขมปานกลาง ไม่ขมมาก ถ้าจะให้เข้าถึงรสชรติกาแฟอย่างแท้จริง จะต้องดื่มแบบสดๆ ไม่ผสมน้ำตาล จนเรียกกันติดปากว่า กาแฟขี้ข้างคาว จากนั้นจึงเพาะพันธุ์ขยายพื้นที่ปลูก โดยเน้นปุ๋ยที่ใส่ต้นกาแฟจะต้องเป็นปุ๋ยที่ทำจากขี้ค้างคาวถ้ำวารีรินเท่านั้น เพื่อคงรสชาติของกาแฟเอาไว้จนเป็นที่มาของ “กาแฟมูลค้างคาว”
นายเขตร เล่าว่า ที่ผ่านมาได้ประสาน สนง.พัฒนาชุมชน เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบกาแฟดังกล่าว ปรากฏว่าเป็นกาแฟที่มีความแตกต่างจากกาแฟทั่วไป จึงผลักดันให้เป็นสินค้าประจำตำบลของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านบางเหลียว ภายใต้ชื่อ “กาแฟมูลค้างคาวบ้านบางเหลียว” ขณะนี้กำลังสั่งทำบรรจุภัณฑ์ออกจำหน่าย โดยกาแฟที่คั่วแล้วจำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 500 บาท ไร่ ล่าสุดได้รับการติดต่อให้ไปจำหน่ายที่ลาวในต้นเดือนนี้ แต่ตอนนี้ผลผลิตที่ได้ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด เพราะ 1 ปี เก็บผลผลิตได้เพียง 3 ตันเท่านั้น ขณะนี้กำลังกระจายต้นพันธุ์ให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้นำไปปลูกเพื่อเพิ่มผลผลิต โดยใช้ปุ๋ยจากมูลค้างคาวเป็นหลัก ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ขณะนี้ได้มีการเก็บตัวอย่างไปวิจัย และหากมีผลการวิจัยออกมาก็จะจดสิทธิบัตรในอนาคต สำหรับคอกาแฟอยากให้ลองมาชิม เปิดขายอยู่หน้าถ้ำวารีรินทุกวัน หรือติดต่อได้ที่กลุ่มวิสาหกิจชมาชนบ้านบางเหลียว ต.คีรีวง อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ โทร.089-9722513 .- สำนักข่าวไทย