สำนักข่าวไทย 29 ต.ค.-กองทัพบกไทย เป็นหนึ่งหน่วยงานที่มีเฮลิคอปเตอร์ Agusta Westland เข้าประจำการมากกว่า 10 เครื่อง นักบินบอกว่า เฮลิคอปเตอร์สัญชาติอิตาลีได้รับการยอมรับว่ามีความทันสมัยและปลอดภัยสูงมาก พวกเขาและคนทั่วโลกต่างเฝ้ารอคำตอบว่า ทำไม AW-169 ของ “วิชัย ศรีวัฒนประภา” ถึงประสบอุบัติเหตุตกลงกลางเมืองเลสเตอร์ จนทำให้นักบินและผู้โดยสารบนเครื่องเสียชีวิตทั้งหมด
เฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ที่ประสบอุบัติเหตุ ผลิตโดยบริษัท ลีโอนาร์โด ประเทศอิตาลี รุ่น AW-169 ซึ่งถือว่ามีความทันสมัย สะดวกสบาย ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 306 กิโลเมตร/ชั่วโมง บินได้นานถึง 4 ชั่วโมง 20 นาที บรรทุกผู้โดยสารรวมนักบินได้ถึง 13 คน
Agusta AW-169 ถือว่าได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ออกแบบมาให้ใช้ได้งานอย่างอเนกประสงค์ ทั้งการรับส่งผู้โดยสารและการกู้ภัย ผ่านการรับรองจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา มาตรฐานความปลอดภัย จากสำนักงานด้านความปลอดภัยการบินยุโรป หรือเอียซา ปัจจุบันเฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้ประจำการอยู่ในหน่วยงานภาครัฐหลายประเทศ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาตินอร์เวย์ หน่วยกู้ภัยเยอรมนี สวีเดน นิวซีแลนด์
กองทัพบกไทยคือหนึ่งในลูกค้ารายสำคัญ ลงนามสัญญาซื้อขายกันครั้งแรกในปี 2555 สมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้บัญชาการทหารบก ปัจจุบันมีเฮลิคอปเตอร์ Agusta ประจำการ ณ ศูนย์การบินทหารบก และกรมขนส่งทหารบก ทั้งหมด 15 เครื่อง แยกเป็นรุ่น AW-139 จำนวน 10 เครื่อง และ AW-149 อีก 5 เครื่อง ภารกิจหลัก คือ สนับสนุนแผนป้องกันชายแดน และเฮลิคอปเตอร์สำหรับรับ-ส่ง บุคคลสำคัญ สมรรถนะที่สำคัญ คือ บินได้นาน 3 ชั่วโมง เพดานบิน 20,000 ฟุต สามารถบรรทุกผู้โดยสารรวมนักบินสูงสุด 17 คน
นักบินกองทัพนายหนึ่งให้ข้อมูลกับสำนักข่าวไทย ว่า Agusta เป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ทันสมัย และมีความปลอดภัยสูง เช่น รุ่น AW-139 ที่กองทัพบกใช้งาน มี 2 เครื่องยนต์ 5 ใบพัด ออกแบบให้ถังน้ำมันอยู่บริเวณลำตัวส่วนหลังของอากาศยาน ระหว่างล้อด้านหลังทั้ง 2 ข้าง ด้านล่างของถังน้ำมันติดตั้งอุปกรณที่เรียกว่า Tank Foam โดยรอบ เมื่อถูกแรงกระแทกจะช่วยป้องกันไม่ให้ถังน้ำมันแตกเสียหาย อย่างไรก็ตาม ไม่ทราบว่ารุ่น AW-169 ที่ประสบอุบัติเหตุ ออกแบบถังน้ำมันเหมือนกันหรือไม่ เพราะปรากฏเพลิงไหม้อย่างรุนแรงหลังตกกระแทกพื้น ซึ่งต้องรอเจ้าหน้าที่ด้านนิรภัยการบินเข้าตรวจสอบหาสาเหตุโศกนาฏกรรมช็อกแฟนบอลทั่วโลกอย่างละเอียดต่อไป.-สำนักข่าวไทย