สมุทรสาคร 18 ต.ค. – ป.ป.ท. กำลังสอบสวนคดีหญิงไทยใช้บัตรประชาชนไปจดทะเบียนสมรสกับชาวต่างชาติมากหลายพันคู่ในช่วง 3 ปีมานี้ โดยเฉพาะชายจากเอเชียใต้ เหตุผลสำคัญเพื่อต้องการอยู่ต่อในไทย หรือ Overstay พบทำเป็นขบวนการ มีนายหน้าจัดหาผู้หญิง โดยได้ค่าตอบแทนทั้งนายหน้าและผู้หญิง อย่างที่ จ.สมุทรสาคร พบตกเป็นเหยื่อมากกว่า 10 ราย และยังไม่สามารถเพิกถอนการจดทะเบียนสมรสได้
พาหุรัด เป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีชาวอินเดียเข้ามาทำงานมาก เสาไฟฟ้าต้นนี้มีคนนำทะเบียนสมรสชายอินเดียและหญิงไทยมาติดไว้ อาจเป็นของใครทำตกหล่นไว้ หรือเป็นทะเบียนสมรสอำพรางเพื่อใช้ในการอยู่ต่อ เพราะไทยเป็นหนึ่งในประเทศเป้าหมายที่กลุ่มคนจากเอเชียใต้ อาทิ อินเดีย และปากีสถาน นิยมเข้ามาทำงาน และมีจำนวนไม่น้อยที่ลักลอบอยู่อย่างผิดกฎหมาย อ้างเป็นนักกีฬา ครูสอนภาษา นักเรียนนักศึกษา และอ้างเหตุอยู่ต่อเพื่ออุปการะภรรยาหรือบุตร
ที่ จ.สมุทรสาคร มีนายหน้าเข้ามาว่าจ้างหญิงไทยในชุมชนต่างๆ ให้จดทะเบียนสมรสให้กับชายชาวต่างชาติหลายราย หญิงไทยที่ตกเป็นเหยื่อหลงเชื่อนายหน้า ส่วนใหญ่อาชีพรับจ้าง ขัดสนเรื่องเงิน อย่างคนนี้เธอยินยอมให้นำสำเนาบัตรประชาชนและทะเบียนบ้านไปจดทะเบียนสมรสกับชาวอินเดีย เพื่อแลกกับเงิน 3,000 บาท ตามคำชวนของเพื่อนที่ว่า จดแล้ว 1 ปีก็ยกเลิกได้ ทั้งที่ยังไม่รู้จักชาวอินเดียคนนั้น เกือบ 3 ปีเธอยังเพิกถอนการจดทะเบียนสมรสกับชาวอินเดียไม่ได้ เสียสิทธิประโยชน์ เช่น ค่าคลอด ค่าสงเคราะห์บุตรที่ควรเบิกได้ตามสิทธิของสามีตัวจริง ซึ่งอยู่กินมาก่อนแต่ไม่ได้จดทะเบียน
ผู้ใหญ่บ้านบอกว่า ขบวนการนี้แบ่งนายหน้าออกเป็นหลายสาย เพื่อหาหญิงไทยไปจดทะเบียนสมรสกับชาวต่างชาติ นายหน้ามีรายได้หัวละหลายพันบาท ในหมู่บ้านนาดีมีหญิงสาวหลงเชื่อกว่า 10 ราย
นอกจาก จ.สมุทรสาคร ที่มีหญิงไทยเดือดร้อนจากการไม่สามารถเพิกถอนทะเบียนสมรสได้แล้ว ยังมีหญิงไทยในอีกหลายจังหวัดที่ตกเป็นเหยื่อ นี่เป็นผลจากการทุจริตจดทะเบียนสมรสอำพรางให้ชาวอินเดียและปากีสถานของเจ้าหน้าที่รัฐ จนเป็นคดีเข้าสู่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ โดยที่ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู พบการจดทะเบียนสมรสอำพรางมากกว่า 600 ราย อ.สามพราน และบางเลน จ.นครปฐม เกือบพันราย และที่ จ.สระบุรี อีกกว่า 2,000 ราย. – สำนักข่าวไทย