อินโดนีเซีย13 ต.ค.61- การแข่งขันเอเชียนพาราเกมส์ 2018 ที่
กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย แบดมินตัน รอบชิงชนะเลิศ ประเภท หญิงคู่ คลาส WH1 อำนวย เวชวิฐาน กับ
สุจิรัตน์ ปุกคำ คู่ดีกรีแชมป์โลกชาวไทย แพ้คู่ของ หลิง ฮอง เหยิ่น กับ กู ติง ติง
จากจีน 1-2 เกม 17-21,11-21 และ13-21 ทำได้เพียงแค่เหรียญเงิน
ขณะที่ประเภทคู่ผสม คลาส SL3-SU5
รอบชิงชนะเลิศ นิภาดา แสนสุภา กับ ศิริพงษ์ เติมอารมณ์ ของไทย แพ้ เฮอร์รี่ ซูซานโต้ กับ เลนนี่ ราตี้
จากอินโดนีเซีย 0-2 เกม 7-21, 10-21
ทำให้ได้เพียงแค่เหรียญเงิน
สรุปผลงานทัพนักกีฬาไทยคว้า 23 เหรียญทอง 32 เหรียญเงิน 50
เหรียญทองแดง โดยจีน ครองเจ้าเหรียญทอง คว้าไป 171 เหรียญทอง 88 เหรียญเงิน และ 59
เหรียญทองแดง ทั้งนี้ผลงานของทัพพาราไทย ในเอเชียนพาราเกมส์ เมื่อสี่ปีที่แล้ว
ที่เมืองอินชอน เกาหลีใต้ ทำได้ 21 ทอง 39 เงิน 47 ทองแดง
จากนั้นในช่วงค่ำได้มีพิธีเปิดการแข่งขันมีขึ้น ณ สนาม เกโลร่า บังการ์โน่
กรุงจาการ์ตา โดยการแสดงในพิธีปิดเป็นไปอย่างเรียบง่าย
ซึ่งสื่อถึงความสมัครสมานสามัคคีของเหล่านักกีฬาที่เข้ามาร่วมการแข่งขันในครั้งนี้
ก่อนที่ “เจ้าภาพ” อินโดนีเซีย จะส่งไม้ต่อให้
สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งจะเป็น “เจ้าภาพ” ครั้งต่อ โดยจะมีการแข่งขันที่ เมืองหังโจว ในอีก 4 ปีข้างหน้า
ด้าน “บิ๊กนิดหน่อย”
จุตินันท์ ภิรมย์ภักดี
ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย
เปิดกล่าวถึงผลงานของทัพนักกีฬาพาราทีมชาติไทย ว่า
ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมของนักกีฬาพาราไทยทุกคน
เมื่อมองถึงภาพรวมต้องบอกว่านักกีฬาเรามีผลงานที่ดีขึ้น เนื่องจากเราสามารถคว้าเหรียญรางวัลมาครองได้มากกว่าครั้งที่แล้ว
จุตินันท์ ยังกล่าวอีกว่า อย่างไรก็ดีนอกเหนือผลงานในภาพรวมการคว้าเหรียญรางวัลแล้ว
ในเอเชียนพาราเกมส์ครั้งนี้ ยังได้เห็นถึงพัฒนาการที่ยอดเยี่ยมของนักกีฬาหน้าใหม่ในหลายๆชนิดกีฬา
ทั้งกรีฑา, แบดมินตัน, เทเบิลเทนนิส
ฯลฯ ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดีในการเดินหน้าเตรียมความพร้อมสำหรับพาราลิมปิกเกมส์
2020 ที่ โตเกียว ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของทัพพาราไทย เพราะหวังที่จะทำผลงานในพาราลิมปิก
2020 ให้ดีขึ้นกว่าทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา-สำนักข่าวไทย.