กรุงเทพฯ 21 ก.ย. – ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดกินเจปีนี้เงินสะพัดทั่วกรุงฯ 4,650 ล้านบาท คุณค่าทางสารอาหารที่ครบถ้วนเป็นปัจจัยดึงกำลังซื้อคนกรุงฯ
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดว่าเทศกาลกินเจปี 2561 ระหว่างวันที่ 9-17 ตุลาคมนี้ ผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพฯ จะมีเม็ดเงินใช้จ่ายด้านอาหารและเครื่องดื่มเจสะพัดกว่า 4,650 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 3.3 เมื่อเทียบกับปีก่อน จากจำนวนคนที่สนใจกินเจเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เลือกกินเจเป็นบางวันเฉลี่ยอยู่ที่ 4 วัน และมีค่าใช้จ่ายในการกินเจประมาณ 315 บาท/คน/วัน
ทั้งนี้ คนกรุงฯ ส่วนใหญ่ยังสนใจที่จะกินเจ โดยช่องทางหลักในการเลือกซื้ออาหารและเครื่องดื่มเจ คือ ซื้อจากร้านอาหารมาทาน เพราะสะดวก ง่าย เข้ากับไลฟ์สไตล์ของชีวิตคนกรุงฯ ที่เร่งรีบและไม่ค่อยมีเวลา ส่วนรสชาติและภาพลักษณ์ของอาหารและเครื่องดื่มเจ ถือเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคคนกรุงฯ ค่อนข้างสูง ดังนั้น การปรับภาพลักษณ์อาหารเจให้ดูไม่จำเจน่ารับประทานและมองเป็นอาหารเชิงสุขภาพจะช่วยให้กลุ่มผู้บริโภคมีทัศนคติและมุมมองต่ออาหารเจในเชิงบวกมากขึ้น ซึ่งเอื้อต่อโอกาสในการทำการตลาดปีนี้และปีต่อ ๆ ไป
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าระยะหลังจะมีกระแสเกี่ยวกับการบริโภคอาหารเจที่อาจทำให้เกิดภาวะขาดสารอาหาร โดยเฉพาะโปรตีน แต่จากกระแสการปนเปื้อนสารพิษต่าง ๆ ในเนื้อสัตว์ รวมถึงโอกาสในการเจ็บป่วยหรือเป็นโรคง่ายขึ้น ยังเปิดกว้างให้อาหารเจมีโอกาสทำตลาดเพิ่มขึ้น ดังนั้น หากผู้ประกอบการผลิตและจำ หน่ายอาหารและเครื่องดื่มเจชูจุดขายเรื่องคุณค่าทางอาหารที่ครบถ้วน มีประโยชน์เชิงสุขภาพ และสร้างความแปลกใหม่ให้กับเมนูอาหารและวัตถุดิบที่ใช้แตกต่างจากคู่แข่ง น่าจะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อเร็วขึ้น ซึ่งกระตุ้นยอดขายให้กับธุรกิจได้โดยเฉพาะกับผู้บริโภคอาหารเจที่ไม่ได้จำกัดการบริโภคเฉพาะในช่วงเทศกาล.-สำนักข่าวไทย