สธ.19 ก.ย.-คณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ เรียกร้องให้ รมว.สธ.โชว์ความจริงใจ เปิดเผยร่าง พ.ร.บ.ยา ที่คาดว่าจะเข้า ครม.สัปดาห์หน้า หวั่นนำของเดิมนำเสนอ แค่ใส่ความเห็นต่างลงไป ทำให้ปัญหาร่าง พ.ร.บ.ยา บางมาตราไม่ได้รับการแก้ไขอย่างที่ควร
ภก.ภักดี โพธิศิริ คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติด้านที่ 6 เรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยร่างพระราชบัญญัติยา พ.ศ. …. ที่คาดว่าจะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า เนื่องจากอาจเป็นร่างพระราชบัญญัติเดิม(ก.ค.ปี2561) ที่ยังไม่รับการแก้ไขปรับปรุงส่งผลให้ไม่เกิดประโยชน์ แม้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจะเสนอยืนยัน จะได้แนบสิ่งชี้แจงของแต่ละสหวิชาชีพร่วมให้พิจารณาด้วย
ภก.ภักดี กล่าวต่อว่า แม้ดูผิวเผินร่างพระราชบัญญัตินี้จะมีการถกเถียงเรื่องของวิชาชีพในการจ่ายยา แต่ก็เพื่อประโยชน์ของประชาชน เนื่องจากเดิมปี 2540 กำหนดให้วิชาชีพอื่นที่วินิจฉัยโรคและสามารถจ่ายยาได้ทั้งแพทย์ ทันตแพทย์ สัตวแพทย์และเภสัชกร เนื่องจากในขณะนั้น มีสัดส่วนเภสัชกรแค่หลักพันคน แต่ปัจจุบันประเทศไทยมีเภสัชกรราว 40,000 คน จึงควรคืนสัดส่วนการจ่ายยาให้กับเภสัชกรแทน
อีกทั้งเห็นว่าการกำหนดสัดส่วนของประเภทยาที่แตกต่างจากเดิม 3 ประเภท คือยาควบคุม, ยาอันตรายและยาสามัญประจำบ้าน โดยเพิ่มสัดส่วนของยาบรรจุเสร็จลงไปนั้น จะยิ่งสร้างความสับสนและอันตรายกับผู้บริโภค อีกทั้งไม่เป็นไปตามหลักสากล เท่ากับทั่วโลกที่มีอยู่ ยิ่งมีการเพิ่มใบอนุญาตขายปลีกยาไม่อันตรายและยาไม่ควบคุมพิเศษลงไป ยิ่งน่าเป็นห่วงเพราะหากในอนาคตประชาชนสามารถซื้อขายยาได้ง่ายและผู้ให้คำแนะนำไม่ใช่เภสัชกรโดยตรงก็อาจไม่ได้รับความรู้ผลข้างเคียงจากตัวยาและยังเกิดปัญหาดื้อยามากยิ่งขึ้นเพราะแม้แต่การรับประทานยาพาราเซตามอลเองก็ส่งผลอันตรายต่อตับและไต
ภก.ภักดี กล่าวด้วยว่า หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีความจริงใจในเรื่องนี้ควรจะเปิดเผยร่างพระราชบัญญัติยาที่จะมีการนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ทุกฝ่ายและวิชาชีพมีความสบายใจ แม้ที่ผ่านมาจะยืนพื้นนำร่างหรือคำทวงติงของเภสัชกรไปนำเสนอ .-สำนักข่าวไทย