กรุงเทพฯ 20 ก.ค. – กกพ.พร้อมปฏิบัติตามนโยบายภาครัฐ หลังรัฐมนตรีพลังงานส่งสัญญาณปรับเปลี่ยนบอร์ด
นายพรเทพ ธัญญพงศ์ชัย ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ). กล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.ประกอบกิจการพลังงาน มาตรา 17 ระบุว่า กรรมการมีวาระการดำรงตำแหน่ง 6 ปี นับตั้งแต่วันที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งและให้ดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียวในวาระเริ่มแรก เมื่อครบกําหนด 3 ปีให้กรรมการออกจากตำแหน่งจำนวน 3 คน โดยวิธีจับสลากและให้ถือว่าการออกจากตำแหน่ง โดยการจับสลากดังกล่าวเป็นการพ้นจากตำแหน่งตามวาระ ให้กรรมการซึ่งพ้นจากตําแหน่งตามวาระหรือโดยการจับสลากออกอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการขึ้นใหม่
ทั้งนี้ ก่อนดำรงตำแหน่งครบ 3 ปี กกพ.ก็มีความกังวลใจในสถานะของกรรมการที่ต้องดำเนินงานอยู่ภายใต้กฎหมาย 2 ฉบับ คือ คำสั่ง คสช. และ พ.ร.บ.กำกับกิจการพลังงาน จึงได้มีการทำหนังสือขอความเห็นไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาให้ตีความกฎหมายดังกล่าว เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ให้มีความชัดเจน และรายงานไปยังพลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานในสมัยนั้นรับทราบ ซึ่งก็ไม่ได้มีข้อสั่งการใด ๆ
“กกพ.ทั้ง 7 คนรู้ตัวดีว่ามาจากการแต่งตั้งของ คสช. ซึ่งเป็นกฎหมายเหมือนกันแต่คนละฉบับ ซึ่งก่อนดำรงตำแหน่งครบ 3 ปี ก็ไม่มั่นใจและมีความกังวลมากในทางปฏิบัติว่าจะอยู่ในกฎหมาย 2 ฉบับอย่างไรให้ถูกต้องตามกฎหมาย จึงได้ทำหน้งสือขอหารือไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าต้องปฏิบัติอย่างไร ซึ่งได้คำตอบจากการตีความว่า “วาระแรก” หมายถึงกรรมการชุดแรก ซึ่งพวกผมมาเป็นกรรมการเป็นชุดที่ 3 ดังนั้น ผมจึงไม่ต้องจับสลากตามกฎหมายข้อนี้ เพราะชุดแรกที่ครบ 3 ปีจับสลากออกไปแล้ว” นายพรเทพ กล่าว
อย่างไรก็ตาม กกพ.เตรียมจะหารือร่วมกันในเร็ว ๆ นี้ เพื่อพิจารณาข้อกฎหมายต่าง ๆ ให้รอบคอบก่อนเสนอการตัดสินใจไปยังกระทรวงพลังงานว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยยืนยันว่า กกพ.ไม่ได้นิ่งนอนใจ และพร้อมปฏิบัติตามนโยบายภาครัฐ อีกทั้ง กกพ. ทั้ง 7 คน ยืนยันว่าไม่เคยทำอะไรที่ผิดนโยบาย โดยได้ทำตามหน้าที่อย่างเคร่งครัด สิ่งหนึ่งที่มีปณิธานร่วมกัน คือ ความซื่อสัตย์สุจริต เพราะทำงานเป็นทีม ไม่มีการคอร์รัปชั่น.-สำนักข่าวไทย