กรุงเทพฯ 22 มิ.ย. – กนอ.สั่งคุมเข้มขยะพิษ 40 โรงงานในนิคมฯ ป้องกันเหตุลอบนำเข้าซ้ำซาก พร้อมออก 5 มาตรการ หากพบเตรียมคาดโทษถึงขั้นสั่งปิด
นายอัฐพล จิรวัฒน์จรรยา รักษาการผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) กล่าวว่า ปัจจุบัน กนอ.มีโรงงานประกอบกิจการประเภท 105 หรือโรงงานที่ประกอบกิจการเกี่ยวกับการคัดแยกหรือฝังกลบสิ่งปฏิกูล หรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว และโรงงานที่ประกอบกิจการประเภท 106 หรือโรงงานประกอบกิจการเกี่ยวกับการนำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ไม่ใช้แล้วหรือของเสียจากโรงงานมาผลิตเป็นวัตถุดิบหรือผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยผ่านกรรมวิธีการผลิตทางอุตสาหกรรม แบ่งเป็นโรงงานที่รับคัดแยกขยะทั่วไป 8 แห่ง และโรงงานรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ 32 แห่ง รวม 40 แห่ง ในพื้นที่ 13 นิคมฯ ทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา กนอ.ตรวจพบโรงงานในนิคมฯ ที่มีการลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาในพื้นที่ 1 แห่ง คือ บริษัท ไวโรกรีน (ไทยแลนด์) จำกัด ในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ล่าสุดออกคำสั่งให้โรงงานดังกล่าวทำการปรับปรุงสถานประกอบการให้เป็นไปตามเงื่อนไข พร้อมขนย้ายขยะอิเล็กทรอนิกส์ให้เรียบร้อยภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยยังมีคำสั่งพักใช้ใบอนุญาตการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์จากกรมโรงงานอุตสาหกรรมเป็นเวลา 1 ปี เนื่องจากมีการกระทำผิดส่งขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่นำเข้าบางส่วนไปยังบริษัทอื่น ๆ
นายอัฐพล กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาการลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาพักไว้ในนิคมฯ อย่างเด็ดขาด กนอ.จึงมีคำสั่งให้ ผอ.นิคมฯ ในกำกับของ กนอ. ทุกพื้นที่ดำเนินการตาม 5 เรื่องเร่งด่วน คือ 1.ตรวจสอบโรงงานในพื้นที่รับผิดชอบของตน พร้อมตรวจสอบใบอนุญาตว่าประกอบกิจการถูกต้องตามกฎหมาย และการประกอบกิจการตรงกับที่ได้ขออนุญาตไว้หรือไม่ 2.ตรวจโรงงานในนิคมฯ อย่างละเอียดทุก 3 เดือน หรือถ้าหากพบความน่าสงสัยให้ ผอ.นิคมฯ เข้าตรวจสอบโรงงานนั้น ในทันที 3.ตรวจสอบการปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้ที่ดินและเงื่อนไขการประกอบกิจการของทุกโรงงานภายในพื้นที่รับผิดชอบว่าเป็นไปตามข้อบังคับของ กนอ. ตลอดจนกฎหมายต่าง ที่เกี่ยวข้อง 4.สำรวจพื้นที่อย่างละเอียด ทั้งที่เป็นโรงงานร้างและโรงงานเก่า ซึ่งอาจมีการลักลอบใช้พื้นที่ผิดวัตถุประสงค์ และ 5.กรณีที่มีการตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอกจะต้องมีเจ้าหน้าที่ของ กนอ.ร่วมตรวจสอบด้วยทุกครั้ง
นอกจากนี้ ทุกนิคมฯ จะต้องรายงานความคืบหน้าปฏิบัติการดังกล่าวเป็นประจำทุกสัปดาห์ โดยเน้นการตรวจกำกับดูแลโรงงานที่เกี่ยวข้องกับขยะอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงโรงงานร้าง และโรงงานเก่า และหากพบมีโรงงานที่ลักลอบกระทำผิดด้วยการนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์จะต้องทำรายงานชี้แจงข้อเท็จจริงให้ กนอ. รับทราบ ซึ่งจะพิจารณาดำเนินการตาม พ.ร.บ.กนอ. พ.ศ.2522 มาตราที่ 30 สั่งระงับการกระทำที่ฝ่าฝืนและให้บริษัทฯ ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปตามมาตรการบังคับ พร้อมรายงานภายใน 7 วัน นับจากที่ได้รับหนังสือ และหลังจากนั้นจะเข้าตรวจสอบอีกครั้ง หากพบว่าบริษัทฯ ไม่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามข้อบังคับจะใช้อำนาจตาม พ.ร.บ. กนอ. พ.ศ.2522 มาตรา 39 ให้โรงงานดังกล่าวปิดกิจการในนิคมฯ ทันที.-สำนักข่าวไทย