สามเสน 6 มิ.ย.-กทม.ขนย้ายเรือดับเพลิง 30 ลำจากจ.ชลบุรี มายังสถานีดับเพลิงสามเสน คาดได้ใช้งาน ก.ย.พร้อมทำเอ็มโอยูกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นำเรือไปใช้งานในจังหวัดริมน้ำเจ้าพระยา-ริมน้ำโขง
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(ผู้ว่าฯกทม.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการขนย้ายเรือดับเพลิง ขนาด 38 ฟุต พร้อมอุปกรณ์ หลัง กทม.ว่าจ้าง บริษัทปาล์มแอนด์ที จำกัด เคลื่อนย้ายเรือดับเพลิง ซึ่งจอดอยู่ที่ บริษัท ซีทโบ๊ต จำกัด จ.ชลบุรี เข้ามาจอดเก็บรักษาที่สถานีดับเพลิงสามเสน เพื่อรอการซ่อมแซม
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวภายหลังลงพื้นที่ว่า วันนี้ได้นำพวงมาลัยมาสักการะแม่ย่านางเรือ เพื่อให้ช่วยปกปักรักษาเจ้าหน้าที่ที่ออกปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้กทม.ได้จ้างบริษัทเอกชนด้วยงบประมาณ 1.59 ล้านบาท ทำการเคลื่อนย้ายเรือดับเพลิง ขนาด 38 ฟุต จำนวน 30 ลำ นำมาเก็บรักษาที่สถานีดับเพลิงสามเสน เพื่อรอการซ่อมแซม โดยบริษัทฯ จะทยอยขนย้ายเรือดังกล่าว วันละ 6 ลำ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้เป็นวันที่สองของการขนย้ายเรือดับเพลิง และจะขนย้ายครบทั้ง 30 ลำ แล้วเสร็จในวันที่ 8 มิ.ย.นี้
จากนั้น กทม.จะตรวจสภาพและความชำรุด ก่อนจัดทำแผนการซ่อมบำรุง เนื่องจากเรือดับเพลิงดังกล่าวจอดเก็บไว้ ไม่ได้ใช้งานเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้อะไหล่ชิ้นส่วนประเภทยางและระบบหล่อเย็นเสื่อมสภาพ เบื้องต้น กทม.จะซ่อมเรือดับเพลิงก่อนจำนวน 10 ลำ โดยตั้งงบประมาณการซ่อมไว้ ลำละไม่เกิน 800,000 บาท จากนั้นจึงจะนำไปใช้งาน โดยกระจายในสถานีดับเพลิงที่อยู่ริมแนวแม่น้ำเจ้าพระยา คาดว่าจะดำเนินการซ่อมแล้วเสร็จและนำมาใช้งานได้ภายในเดือนก.ย.นี้
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวอีกว่า ได้มอบหมายให้ สปภ.ไปศึกษา เพื่อตั้งชื่อเรือดับเพลิง ขณะเดียวกันจะประสานไปยัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ในการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) กับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เพื่อส่งมอบเรือดับเพลิง จำนวน 18 ลำ ให้กับจังหวัดที่อยู่ริมน้ำเจ้าพระยา เช่น นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท หรือจังหวัดที่ติดริมแม่น้ำโขง เพื่อมอบเรือดับเพลิง นำไปใช้งานให้เกิดประโยชน์ เพราะเงินที่จัดซื้อเรือดังกล่าว เป็นเงินภาษีของประชาชนทุกคนทั่วประเทศ ไม่ใช่เพียงคนกรุงเทพฯเท่านั้น ซึ่งเชื่อว่าการมอบเรือดับเพลิงให้กับหน่วยงานราชการจะทำให้ประชาชนและสังคมได้รับประโยชน์ อีกทั้ง กทม.ใช้เรือดับเพลิงไม่หมด เพราะมีขนาดใหญ่ ขณะที่คลองในพื้นที่ กทม.ส่วนใหญ่เป็นคลองขนาดเล็ก คาดว่าจะสามารถนำไปใช้งานได้ในคลองบางกอกน้อยและคลองชักพระ จึงไม่อยากให้จอดเรือดับเพลิงทิ้งไว้ให้เสียเปล่า
อย่างไรก็ตามคาดว่า กทม.จะใช้เรือดับเพลิงเพียง 12 ลำเท่านั้น ส่วนที่เหลืออีก 18 ลำ จะให้จังหวัดดังกล่าวไว้ใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป .-สำนักข่าวไทย