มหาสารคาม 25 พ.ค. – คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดมหาสารคาม พบผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการขุดลอกหนองเลิง ในพื้นที่ อ.เมือง งบประมาณ 15 ล้านบาท มีพฤติการณ์ลักลอบจำหน่ายดินสาธารณประโยชน์ โดยหลบเลี่ยงด้วยการใช้วิธีฝากดินกับชาวบ้าน แต่กลับมีการเรียกเก็บเงินจากผู้รับฝาก รวมทั้งไม่ทำตามข้อตกลงบางอย่างในที่ประชุมประชาคมชาวบ้าน จนส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตชาวบ้านหม้อ
ชาวบ้านหม้อ ต.เขวา อ.เมืองมหาสารคาม ราว 10 ครอบครัว ยังคงขนหม้อที่ปั้นเสร็จมาเผาไฟริมหนองเลิง ตามวิถีชีวิตดั้งเดิมที่สืบทอดมานับร้อยปี จนเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของจังหวัด แต่ภูมิปัญญาที่เลี้ยงปากท้องชาวบ้านกำลังจะได้รับผลกระทบ เมื่อโครงการขุดลอกหนองเลิง 15 ล้านบาท เข้ามาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ในที่ประชุมประชาคมชาวบ้าน ระบุว่า ให้ขุดดินเหนียว วัตถุดิบหม้อดินเผา มากองไว้ให้ชาวบ้านใช้ประโยชน์ แต่ผู้รับเหมากลับอ้างว่าไม่มีในสัญญา ชาวบ้านยังไม่รู้ว่า หมดดินที่ซื้อไว้จากผู้รับเหมาแล้ว พวกเขาจะหาวัตถุดิบจากไหนมาทดแทน
พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 กำหนดให้ติดตั้งแผ่นป้ายแสดงรายละเอียดโครงการก่อสร้าง เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมดูแลการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า แต่โครงการนี้ยังไม่มีการติดตั้งป้าย โดยชลประทานจังหวัดมหาสารคาม เป็นเจ้าของโครงการ ซึ่งกำหนดราคากลาง 30 ล้านบาท ผู้รับเหมาประมูลงานได้ต่ำกว่าถึงร้อยละ 50 ตามกฎหมาย หากประกวดราคาได้สูงหรือต่ำกว่าราคากลางเกินร้อยละ 15 ต้องรายงานต่อสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน แต่โครงการนี้ยังไม่ส่งคำชี้แจง ซึ่งจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดมหาสารคาม ยังพบพฤติการณ์ลักลอบขายดินสาธารณะจากการขุดลอกหนองเลิง รถละ 100-150 บาท แต่หลบเลี่ยงด้วยการใช้คำว่า ฝากดิน ตรวจสอบไม่พบว่ามีการทำสัญญาแต่อย่างใด และผิดหลักการที่ผู้รับฝากควรจะได้รับค่าตอบแทน แต่กลับถูกเรียกเก็บเงิน แม้จะพยายามบอกว่า ชาวบ้านเต็มใจจ่ายเป็นค่าน้ำมันช่วยผู้รับเหมาก็ตาม
ตามกฎหมาย ดินสาธารณะต้องกลับไปเป็นของรัฐ เงินที่ผู้รับเหมาเก็บก็ต้องจ่ายคืนชาวบ้าน ความผิดปกติต่างๆ ที่คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดมหาสารคามตรวจพบ จะถูกส่งต่อไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เขต 4 เข้าตรวจสอบในเร็วๆ นี้. – สำนักข่าวไทย