ย่างกุ้ง 21 พ.ค.- สหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกร้องประเทศแถบสามเหลี่ยมทองคำแก้ไขปัญหาทุจริตและเพิ่มความร่วมมือกันแก้ปัญหาการผลิตและค้ายาบ้าที่ระบาดทั้งในและนอกภูมิภาค
นายเจเรมี ดักลาส ตัวแทนประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิกของสำนักงานป้องกันยาเสพติดและปราบปรามอาชญากรรมแห่งยูเอ็น (UNODC) กล่าวในการประชุมตำรวจและเจ้าหน้าที่ระดับภูมิภาคที่กรุงเนปิดอว์ของเมียนมาเรื่องกำหนดยุทธศาสตร์ใหม่ในการต่อสู้กับภัยยาเสพติดว่า หลักนิติรัฐและธรรมาภิบาลคือปัจจัยสำคัญในการลดการผลิตและการค้ายาเสพติดในระยะยาว พูดให้ง่ายคือการแก้ปัญหาทุจริต สภาพแวดล้อม และสิ่งเปราะบางต่าง ๆที่เปิดช่องให้แก๊งอาชญากรแผ่ขยายการผลิตและค้ายาเสพติด ขณะเดียวกันต้องแก้ปัญหาฟอกเงิน เพิ่มการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองเรื่องแก๊งค้ายา และมีศูนย์บำบัดระดับชุมชนให้แก่ผู้เสพติดและผู้ค้ารายย่อยแทนการลงโทษจำคุก
UNODC ระบุว่า สามเหลี่ยมทองคำเป็นดินแดนไร้ขื่อแปที่ผลิตยาเสพติดมากเป็นอันดับสองของโลก แหล่งผลิตใหญ่อยู่ในรัฐฉานของเมียนมาที่เต็มไปด้วยการสู้รบ แหล่งผลิตเหล่านี้ทำงานทั้งวันทั้งคืนเพื่อให้แก๊งอาชญากรขยายตลาดออกไปนอกภูมิภาค โดยไปไกลถึงออสเตรเลียและญี่ปุ่น ประมาณว่าแต่ละปีมียาบ้าจากสามเหลี่ยมทองคำเล็ดลอดผ่านเจ้าหน้าที่ทุจริตและด่านพรมแดนต่าง ๆ คิดเป็นมูลค่าถึง 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.29 ล้านล้านบาท) ปริมาณยาบ้าที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ราคาลดลง โดยมีราคาถูกที่สุดที่เม็ดละ 2 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 64 บาท) ในไทย และ 7 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 225 บาท) ในสิงคโปร์.-สำนักข่าวไทย