กรุงเทพฯ 18 เม.ย. – “ชาญศิลป์” ว่าที่ซีอีโอ ปตท.คนใหม่โชว์วิสัยทัศน์ “มั่นคง-เติบโต” รุกคืบเจรจากระทรวงคมนาคมลงทุน “สมาร์ทซิตี้-ศูนย์บริการริมทาง”
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม บมจ.ปตท. และว่าที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.คนใหม่ กล่าวว่า การลงทุนตามแนวคิดสมาร์ทซิตี้ของปตท.ในพื้นที่ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมนั้น ยังต้องขึ้นอยู่กับกระทรวงคมนาคมว่าจะให้สิทธิ์ ปตท.เข้าร่วมหรือไม่ แต่ทาง ปตท.ก็ได้เตรียมความพร้อมไว้ ซึ่งสมาร์ทซิตี้บางแห่งกระทรวงคมนาคมบอกว่าการดำเนินการจะเป็นรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (Public Private Partnerships : PPP) ซึ่งจะต้องมีการแข่งขันและ ปตท.ก็มองโอกาสที่จะร่วมมือกับกระทรวงคมนาคมในการจัดทำศูนย์บริการริมทาง (roadside station) ในพื้นที่ทางหลวงพิเศษต่าง ๆ ซึ่งต้องรอความชัดเจนเรื่องเส้นทางจากทางกระทรวงคมนาคมออกมาด้วย โดย ปตท.มีประสบการณ์ทั้งการร่วมในโครงการที่พักรถมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-ชลบุรี และมีประสบการณ์การก่อสร้างและบริหารอาคาร ENCO ซึ่งเป็นอาคารอนุรักษ์พลังงาน (Green Building) และอาคารอัจฉริยะ (Intelligent Building) ที่มีการนำเอาเรื่องพลังงานเข้าไปบริหารจัดการโครงการสมาร์ทซิตี้
นายชาญศิลป์ กล่าวด้วยว่า ภารกิจของ ปตท. คือ การสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ต้องดูแลและจัดหาเชื้อเพลิงเพื่อรองรับความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะความต้องการใช้ในภาคไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่ง ปตท.จะให้ความสำคัญกับการจัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เชื้อเพลิงสะอาด รวมถึงการเดินหน้าสร้างคลัง LNG แห่งใหม่เพื่อรองรับการนำเข้า LNG ในอนาคต ตลอดจนการสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 5 ซึ่งจะสามารถเชื่อมโยงก๊าซฯ จากฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกของประเทศเพื่อให้เกิดความมั่นคงด้านการส่งก๊าซฯ ไปใช้ในโรงไฟฟ้าและโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ กลุ่ม ปตท.ได้เริ่มศึกษาการลงทุนใหม่ที่จะเป็น New S-Curve ของ ปตท.ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า เพราะปัจจุบันแม้ว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลอย่างน้ำมันจะยังเป็นผลิตภัณฑ์หลัก แต่เริ่มเห็นอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ เนื่องจากเริ่มมีเชื้อเพลิงอื่น เช่น พลังงานทดแทน รถยนต์ไฟฟ้า (EV) มีบทบาทมากขึ้น คาดว่าปลายปีนี้น่าจะมีแผนที่ชัดเจนออกมา
นายชาญศิลป์ ย้ำว่าการทำงานจะร่วมกันเป็นทีมและเดินหน้าสานต่อ “PTT 3D” อย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับกลยุทธ์ การเป็นองค์กรแห่งความภาคภูมิใจ (Pride) โดยคำนึงถึงการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องภายใต้ทิศทางยุทธศาสตร์ชาติสู่ไทยแลนด์ 4.0 ประกอบการด้วยกลยุทธ์ Do Now คือ การมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน, Decide Now เป็นการขยายการเติบโตที่ต้องเร่งตัดสินใจ เพื่อนำไปสู่การลงทุนของธุรกิจในอนาคตและ Design Now คือ การเร่งสร้างธุรกิจใหม่ให้มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดในอนาคต โดยการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจ และพัฒนาธุรกิจในรูปแบบใหม่ ๆ ที่ตอบสนองทิศทางโลกาภิวัฒน์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น การลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่คุณค่าด้านไฟฟ้า (Electricity Value Chain) และธุรกิจใหม่ภายใต้ห่วงโซ่คุณค่าด้านชีวภาพ (Bio-Based Value Chain) เป็นต้น. -สำนักข่าวไทย