ยอดยังพุ่ง! 4 วันสงกรานต์ตาย 248 ราย-โคราชเสียชีวิตสูงสุด

กรุงเทพฯ 15 เม.ย.-สรุปอุบัติเหตุ 4 วัน บาดเจ็บ 2,557 คน เสียชีวิต 248 ราย กำชับด่านชุมชนกวดขันรถจักรยานยนต์ ดื่มแล้วขับ ขับเร็ว เตรียมปรับแผนรองรับการเดินทางกลับ

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข  แถลง รณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” ในวันที่ 14 เมษายน เกิดอุบัติเหตุ 603 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 57 ราย ผู้บาดเจ็บ 626 คน ทั้งนี้ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,030 จุด เรียกตรวจยานพาหนะ 858,520 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 181,692 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 50,603 ราย ไม่มีใบขับขี่ 48,061 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่  34 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 9 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่  39 คน  

สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 4 วัน (11 – 14 เม.ย. 61) เกิดอุบัติเหตุ 2,449 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 248 ราย ผู้บาดเจ็บ 2,557 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต ตายเป็นศูนย์  มี 8 จังหวัด ได้แก่ ยะลา ระนอง ลพบุรี สตูล สมุทรสงคราม หนองคาย หนองบัวลำภู และอ่างทอง จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 99 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 17 ราย จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 109 คน  


สำหรับในช่วงที่ประชาชนเริ่มทยอยกลับหลังหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ขอแจ้งเตือนประชาชนโดยเฉพาะผู้ต้องขับรถระยะไกล ให้เตรียมร่างกายให้พร้อม พักผ่อนให้เพียงพอ หาเพื่อนร่วมทางพูดคุย หยุดพักทุกๆ 150 กิโลเมตร หรือ ทุก 2 ชม. หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ และรับประทานยาที่ทำให้ง่วงซึม เมื่อรู้สึกง่วง เพลีย ไม่ฝืนขับ ให้จอดรถหลับสัก 15 นาที ก็จะช่วยได้ และคาดว่าวันพรุ่งนี้ 16 เมษายน จะมีประชาชนเดินทางทยอยกลับบ้านมากที่สุด พร้อมขอให้ประชาชนยึดการปฏิบัติตามหลัก “4 ห้าม 2 ต้อง” 4 ห้าม ได้แก่ ห้ามขับรถเร็ว ห้ามเมาแล้วขับ ห้ามโทรแล้วขับ ง่วงห้ามขับ 2 ต้อง ได้แก่ ต้องสวมหมวกกันน็อก และต้องคาดเข็มขัดนิรภัย เพื่อความปลอดภัย     

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า สถิติการตรวจพบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุโดยประมาทด้วยการดื่มแล้วขับขี่ ตั้งแต่ วันที่ 11-  14 เมษายน 2561 มีรวม 129,916 คน แบ่งเป็น รถจักรยานยนต์  82,589 คัน รถโดยสารสาธารณะ รถยนต์ส่วนบุคคล 47,327 คัน โดยสามารถส่งดำเนินคดี 50,092 คน ยึดรถ  7,067 คัน ยึดใบขับขี่ 16,585 ใบ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Satellite images show wake of destruction of wildfires burning across California

เปิดปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าแอลเอไหม้ลามหนัก

มีหลายปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอ (LA) ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐไหม้ลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นวิกฤตไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูงฝั่งปอยเปต พบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูง 18 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เบื้องต้นพบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา และอาคารดังกล่าวถูกระบุเป็นฐานบัญชาการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีคนไทยถูกหลอกไปทำงานที่นี่จำนวนมาก

Palisades Fire

สหรัฐสั่งอพยพกว่าแสนคนหนีไฟป่า 6 จุดในแคลิฟอร์เนีย

ลอสแอนเจลิส 9 ม.ค.- สหรัฐสั่งอพยพประชาชนมากกว่า 100,000 คน เนื่องจากจำนวนไฟป่าที่โหมไหม้ในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 6 จุดแล้ว เพราะกระแสลมแรงเทียบเท่าเฮอริเคนและสภาพอากาศแล้ง เจ้าหน้าที่เผยว่า ในจำนวนไฟป่าทั้ง 6 จุด มีอยู่ 4 จุดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้เลย ไฟป่าจุดแรก คือ พาลิเซดส์ไฟร์ (Palisades Fire) เกิดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 7 มกราคมตามเวลาท้องถิ่นใกล้แปซิฟิก พาลิเซดส์ ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยทางตะวันตกเฉียงเหนือของเทศมณฑล ต้นเพลิงมาจากไฟไหม้พุ่มไม้ที่โหมไหม้จนเกินควบคุมเพราะกระแสลมแรง ต้องอพยพคนอย่างน้อย 30,000 คน ไฟป่าจุดที่ 2 คือ อีตันไฟร์ (Eton Fire) เกิดขึ้นในเย็นวันเดียวกันที่หุบเขาอีตันแคนยอน เผาไหม้พื้นที่ขยายวงกว้างมากพอ ๆ กับไฟป่าจุดแรก ไฟป่าจุดที่ 3 คือ เฮิร์ตส์ไฟร์ (Hurst Fire) เกิดขึ้นกลางดึกวันเดียวกันในย่านซิลมาร์ของนครลอสแอนเจลิส จากนั้นในเช้าวันที่ 8 มกราคมเกิดไฟป่าจุดที่ 4 คือ วูดลีไฟร์ […]

ข่าวแนะนำ

จับนายอำเภอเหนือคลอง เรียกรับเงินผู้รับเหมา แลกจบงาน

ตำรวจแถลงผลปฏิบัติการ “ไม่จ่าย ไม่จบ” จับนายอำเภอเหนือคลอง จ.กระบี่ พร้อมเจ้าหน้าที่ปกครอง เรียกรับเงินใต้โต๊ะบริษัทรับเหมา 50,000 บาท แลกจบงาน

นายกฯ เผยไม่มีคนไทยบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุไฟป่าแอลเอ

นายกฯ เผย ไม่มีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากเหตุไฟป่าที่แอลเอ มีเพียงร้านอาหารไทยที่ได้รับความเสียหาย สั่ง กงสุลเปิดศูนย์ช่วยเหลือคนไทย

“เฉิน” ตัวการสำคัญฉกเงินคนจีนในไทย บงการอยู่ต่างประเทศ

คดีคนจีนหลอกฉกเงินคนจีน รวมมูลค่า 13 ล้านบาท ตำรวจตามไปพบรถคันก่อเหตุ และยึดเงินคืนมาได้ แต่ “อาเฉิน” ตัวการสำคัญ หนีออกนอกประเทศไปแล้ว