“อภิสิทธิ์-ปริญญา” ชี้พลังโซเชียลเปลี่ยนแปลงการเมือง

มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ 17 มี.ค.-“อภิสิทธิ์-ปริญญา” ยอมรับพลังโซเชียลเปลี่ยนแปลงการเมืองได้จริง ถือเป็นประชาธิปไตยยุคใหม่ มีพลังในการตรวจสอบถ่วงดุล ชี้นักการเมืองต้องปรับตัว ขณะที่ “อธึกกิต” เชื่อพลังโซเชียลไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในทันที แต่เป็นเพียงเครื่องมือในการระบายความรู้สึกทางอารมณ์ของคนที่สุดโต่ง


สถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย จัดสัมมนาสาธารณะ หัวข้อ “พลังโซเชียลเปลี่ยนการเมืองไทย…จริงหรือ?” โดยมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายบริหารและความยั่งยืน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายอธึกกิต แสวงสุข คอลัมนิสต์ เจ้าของนามปากกาใบตองแห้ง เข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

โดยนายอภิสิทธิ์ ยอมรับว่า พลังโซเชียลเปลี่ยนแปลงการเมืองได้จริง เพราะการเมืองเป็นเรื่องของความคิด การต่อสู้ทางความคิด และข้อมูล ซึ่งการสื่อสารมีรูปแบบที่เปลี่ยนแปลงไป โซเชียลมีเดียสามารถทำให้ทุกคนเป็นผู้ผลิตสื่อได้ จึงทำให้ไม่แน่ใจว่าการสื่อสารต่อจากนี้ ประชาชนจะเชื่อสื่อหลักเพียงอย่างเดียวหรือไม่ เพราะสื่อกระแสหลักที่เคยมีอิทธิพลในอดีต ยังให้ความสำคัญกับโซเชียลมีเดีย ทำให้นักการเมืองต้องปรับตัวและให้ความสำคัญกับโซเชียลมีเดีย ใช้เป็นสมรภูมิหลักในการต่อสู้ทางการเมือง โดยเฉพาะกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่มีโอกาสเลือกตั้งครั้งแรกถึง 7 ล้านคนที่ใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งทำให้นักการเมืองต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการหาเสียง จากเดิมที่ต้องจัดเวทีปราศรัย มาเป็นเฟซบุ๊คไลฟ์ ที่อาจมีคนติดตามมากเช่นกัน


นายอภิสิทธิ์ ยอมรับว่า โซเชียลมีเดียมีพลังในการตรวจสอบถ่วงดุล เห็นได้จากหลายกรณี เช่น กรณีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่แม้ยังไม่ได้คำตอบ แต่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลก็ได้รับผลกระทบทางคะแนนนิยมอย่างหนัก คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต้องระมัดระวังในการตรวจสอบ จากเดิมที่อาจจะมีแผนให้ออกมาในทิศทางใดทิศทางหนึ่งก็อาจจะต้องคิดหนัก ขณะเดียวกันการใช้โซเชียลมีเดียในทางกลับกันต้องระมัดระวัง เพราะยังขาดการควบคุม แยกแยะ  และไตร่ตรองข้อเท็จจริง โดยเฉพาะทางการเมือง ในช่วงเลือกตั้ง กกต.ควรวางกติกาให้ชัดเจนเกี่ยวกับการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จ ซึ่งทำให้เกิดความได้เปรียบและเสียเปรียบ ดังนั้นโจทย์ใหญ่ คือ จะทำอย่างไรในการนำพลังตรงนี้ไปสู่พลังที่สร้างสรรค์

ด้านนายปริญญา กล่าวว่า โซเชียลมีเดียทำให้คนอยู่ในโลกความจริงมากขึ้น เพราะสมาร์ทโฟนเปรียบเสมือนกล้องวงจรปิดเคลื่อนที่ที่พร้อมจะบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ ไว้เป็นหลักฐาน เช่น กรณีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร ที่เริ่มต้นจากการเปิดเผยข้อมูลจากเว็บเพจในโซเชียล ก่อนที่สื่อกระแสหลักจะตามประเด็นต่อ ซึ่งถือว่าโซเชียลทีเดียมีผลทำให้เกิดกระแสต่อสังคม เกิดการรวมกลุ่มของคนที่มีแนวคิดคล้ายกัน และในทางการเมืองปัจจุบันถือเป็นยุคที่ใช้สมาร์ทโฟนขับเคลื่อนประเทศ ประชาชนสามารถเรียกร้องในสิ่งที่ตนเองต้องการได้ ขณะเดียวกันโซเชียลมีเดียถือเป็นประชาธิปไตยยุคใหม่ คือ ประชาธิปไตยที่เป็นของคนทุกชนชั้น ทุกคนมีสิทธิแสดงออกทางความคิด ไม่มีเพศและอายุ ที่สำคัญการชุมนุมเรียกร้องสามารถเกิดได้ในโซเชียล

นายอธึกกิต เชื่อว่า พลังโซเชียลจะไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในทันที เพราะทิศทางการเคลื่อนไหวยังไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่มีผลทางกฎหมาย และเป็นเพียงเครื่องมือที่ใช้ในการะบายความรู้สึกทางอารมณ์ จนเป็นที่มาของคำว่า ลูกขุนออนไลน์ มีการสร้างกระแสอารมณ์ของคนที่สุดโต่ง และตัดสินเรื่องราวไปบนพื้นฐานความรู้สึก โดยไม่ฟังความรอบข้าง ซึ่งบางครั้งเกิดการตีกลับเมื่อมีข้อมูลใหม่ ๆ ออกมา เช่น คดีหวย 30 ล้าน หรือกรณีป้าทุบรถ ซึ่งสะท้อนปรากฎการณ์ของรัฐที่ล้มเหลว แต่สิ่งที่ตามมาคือการเรียกร้องให้รัฐใช้อำนาจแบบสุดขั้ว และต้องเอาใจโซเชียล ดังนั้นโซเชียลยังมีภาพของความสุดโต่ง ซึ่งจะเกิดปัญหาตามมา ซึ่งถือเป็นจุดอ่อน ดังนั้นภาพรวมโซเชียลมีเดียจึงเป็นภาวะของสังคมที่เกิดการสะท้อนภาพการไม่ไว้ใจอำนาจเชิงระบบรัฐ นักการเมือง นักวิชาการ สื่อ พระภิกษุ ครู หรือแม้แต่องค์กรอิสระ ที่เกิดความเสื่อม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สั่งระดมช่วยน้ำท่วมใต้-เร่งเยียวยา

นายกฯ สั่งระดมช่วยเหลือน้ำท่วมใต้-เร่งมาตรการเยียวยา เผย ครม.เห็นชอบ 39 โครงการฟื้นฟูพื้นที่อุทกภัย เชียงใหม่-เชียงราย 641 ล้านบาท

เตรียมรื้อถอนคานถล่ม ถ.พระราม 2-กู้ร่างผู้สูญหาย

ช่วงบ่ายนี้ (29 พ.ย.) จนท.กรมทางหลวง สภาวิศวกรรมสถาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมนำรถเครนรื้อถอนเหล็กถักที่ถล่มบน ถ.พระราม 2 โดย ปภ.สมุทรสาคร ไม่มั่นใจว่าการดำเนินการจะจบภายในวันเสาร์-อาทิตย์นี้หรือไม่

คานถล่มพระราม2

ตร.ทางหลวง แนะเลี่ยงถนนพระราม 2 หลังการจราจรเข้าขั้นวิกฤต

ตำรวจทางหลวง เผยการจราจรถนนพระราม 2 เข้าขั้นวิกฤต แนะเส้นทางเลี่ยงทั้งขาเข้าและขาออกกรุงเทพมหานคร ยังไม่ชัดเปิดการจราจรได้ตามปกติเมื่อใด

คานถล่มพระราม2

“สุริยะ” สั่งผู้รับเหมาหยุดก่อสร้าง ถ.พระราม 2 ตัดสิทธิรับงาน 2 ปี

“สุริยะ” รมว.คมนาคม เผยเย็นวันนี้เตรียมกลับไปตรวจสอบสาเหตุคานเหล็กก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ถล่ม สั่งการผู้รับเหมาหยุดก่อสร้าง รวมทั้งตัดสิทธิรับงาน 2 ปี และขอให้เพิ่มความเข้มงวดมาตรการลดชั้นผู้รับเหมา เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุ