กรุงเทพฯ 16 มี.ค.- “พล.อ.อนุพงษ์” แจง งบฯ รายจ่ายเพิ่มเติม ปี 61 ของกระทรวงมหาดไทย ย้ำงบฯ โครงการไทยนิยมฯ จะลงไปยังหมู่บ้านโดยตรง เน้นโครงการที่สร้างรายได้ให้ประชาชน
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง กรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องกระทรวงมหาดไทยได้งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมปี 2561 จำนวนกว่า 30,000 ล้านบาท ว่า ส่วนแรกที่กระทรวงมหาดไทยได้รับประมาณ 20,000 ล้านบาท จะกระจายให้ท้องถิ่น ทั้งหมู่บ้านและชุมชน กว่า 80,000 แห่ง เฉลี่ยแห่งละ 200,000 บาท โดยเงินส่วนนี้จะเกิดจากการสอบถามความต้องการของประชาชนเป็นหลัก ซึ่งทุกขั้นตอนจะมีภาคประชาสังคม ภาคเอกชน และสถานศึกษาในแต่ละพื้นที่มาร่วมพิจารณาด้วย ส่วนขั้นตอนการเบิกจ่ายจะเป็นเรื่องของกรรมการหมู่บ้าน หรือประชาชนโดยตรง จะไม่ผ่านกระทรวงมหาดไทย
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับส่วนที่ 2 เป็นงบฯ ที่ต้องนำมาปรับปรุง เรื่องสินค้าโอทอป ประมาณ 9,000 ล้านบาท ซึ่งจะผ่านกระทรวงมหาดไทย โดยกรมพัฒนาชุมชน และต้องดำเนินการให้เชื่อมโยงกับเป้าหมายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ทั้งนี้ยังมีงบฯ อีก 2,500 ล้านบาท ที่ต้องดำเนินการแทนกระทรวงการคลัง คือ เรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เช่น ค่าเอกสาร ค่าเดินทางทั้งหมดของคณะทำงานของทุกหน่วยงานที่ลงพื้นที่ไปหาผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งต้องเบิกจ่ายตามจริง
พล.อ.อนุพงษ์ ยังกล่าวว่า ขณะนี้งบฯเพิ่มเติมปี 2561 ยังไม่เข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) คาดว่าปลายเดือนมีนาคมนี้ กรรมการจะได้รับโครงการตามความต้องการของประชาชนมาพิจารณาได้ จากนั้นจะผ่านการคัดกรองโครงการอีกครั้ง
“นายกฯ สั่งการว่า หากเป็นโครงการที่อำนวยความสะดวกในชีวิตประชาชนเฉยๆ ให้ใช้งบฯปกติ เช่น งบฯท้องถิ่น หรือเงินสะสมท้องถิ่น แต่ถ้าเป็นโครงการที่ไปเพิ่มรายได้ อันนี้ถึงจะให้งบฯโครงการไทยนิยมฯ ซึ่งงบฯกว่า 20,000 ล้านบาทนี้จะไม่ผ่านกระทรวงมหาดไทย แต่จะส่งตรงไปยังหมู่บ้านเลย เพียงแต่ก่อนจะทำอะไรจะมีคณะกรรมการผู้พิจารณาก่อนเท่านั้น”พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย