กาฬสินธุ์ 8 มี.ค.-คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดกาฬสินธุ์มีมติปลดออก ผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดังถ่ายคลิปลูกเลี้ยงขณะอาบน้ำ หลังคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงสรุปผลสอบผิดจริง
จากกรณีข้าราชการครูโรงเรียนใน จ.กาฬสินธุ์ พาลูกสาววัย 19 ปี เข้าร้องทุกข์กับผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์, ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ และศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ ว่า ลูกสาว ถูกพ่อเลี้ยง ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ใช้โทรศัพท์แอบถ่ายภาพและถ่ายคลิปขณะบุตรสาวอาบน้ำ และลวนลามมานานหลายปี จึงเข้าร้องเรียนกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 (สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3) และแจ้งความกับตำรวจ สภ.กุฉินารายณ์ กระทั่งมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง จากนั้น ผอ.โรงเรียน ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ขณะที่ศึกษาธิการจังหวัดแต่งตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ตั้งแต่ 20 มิถุนายน 2560
ล่าสุดวันนี้ ( 8 มี.ค.) นายกิตติพศ พลพิลา ศึกษาธิการ จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จแล้ว สรุปว่ามีความผิดตามที่มีผู้ร้องจริง ทางคณะกรรมการจึงมีมติให้ปลด ผอ.โรงเรียนดังกล่าวออกจากราชการและเสนอเรื่องเข้ามายังคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดพิจารณา โดยคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดมีมติปลด ผอ.ออกจากราชการเช่นกัน เมื่อวันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา จากนั้นจะทำหนังสือส่งไปยังหน่วยงานต้นสังกัดเพื่อให้ดำเนินการอย่างช้าภายในสัปดาห์นี้
นายกิตติพศ กล่าวอีกว่า นายอรรถพล ตรึกตรอง ศึกษาธิการภาค 12 ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัดกาฬสินธุ์ เสนอแนวทางปฏิบัติการลงโทษทางวินัยกับข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาที่ถูกร้องเรียน โดยเฉพาะการล่วงละเมิดทางเพศ และการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ หากตรวจสอบพบมีมูลความผิด และถูกตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรงใน 3 กรณี 1.กรณีล่วงละเมิดทางเพศผู้เรียน 2.ทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และ 3.กรณีเสพหรือจำหน่ายยาเสพติด ให้ผู้มีอำนาจตามตรา 53 คือศึกษาธิการจังหวัด สั่งให้ออกราชการไว้ก่อนทุกราย เพื่อให้การเร่งรัดการดำเนินการทางวินัยเป็นไปด้วยความรวดเร็ว และเป็นการป้องปรามการกระทำความผิด โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบ และให้แจ้งไปยังเขตพื้นที่การศึกษาทั้ง 4 เขต ให้ปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าวอย่างเคร่งครัด
ด้านข้าราชการครู กล่าวว่า หลังเกิดเรื่องได้ออกปกป้องศักดิ์ศรีของลูกสาวกระทั่งผลสอบออกมาดังกล่าว ตนและลูกสาวขอขอบคุณทุกหน่วยงาน โดยเฉพาะผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์, ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์, ศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์, สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 ศึกษาธิการจังหวัด และมูลนิธิปวีณาหงสกุล เพื่อเด็กและสตรีที่ให้ความเป็นธรรมกับลูกสาวในครั้งนี้.-สำนักข่าวไทย