สหประชาชาติ 14 ก.พ.- สหรัฐระบุว่าการที่รัฐบาลเมียนมาปฏิเสธว่าไม่มีการเข่นฆ่าล้างชาติพันธุ์ชาวโรฮิงญานั้นเป็นเรื่องน่าขันและเรียกร้องให้สหประชาชาติกดดันผู้นำเมียนมาให้ยอมรับเรื่องดังกล่าว
นางนิกกี้ เฮลี่ย์ ทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ กล่าวหาว่า รัฐบาลเมียนมากระทำการเข่นฆ่าล้างกลุ่มชาติพันธุ์ชาวมุสลิมโรฮิงญาและเพื่อไม่ให้มีใครเห็นต่างรัฐบาลเมียนมาจึงกีดกันไม่ให้บุคคลหรือองค์กรใดๆเดินทางเข้าไปสังเกตการณ์ในรัฐยะไข่ ซึ่งสหรัฐมองว่าการปฏิเสธของรัฐบาลเมียนมาเป็นเรื่องที่น่าขบขัน พร้อมกับเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอชซี กดดันให้นางอองซาน ซูจี ผู้นำเมียนมา ยอมรับว่ามีการเข่นฆ่าล้างชาติพันธุ์ชาวโรฮิงญาเกิดขึ้นจริงในประเทศ
นอกจากนี้นางเฮลี่ย์ ยังเรียกร้องให้ทางการเมียนมาปล่อยตัวสองนักข่าวรอยเตอร์ที่ถูกจับกุมเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้วโดยทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข ขณะที่ทูตเมียนมาประจำยูเอ็นกล่าวว่านักการทูตจำนวนหนึ่งเคยเดินทางเข้าไปยังรัฐยะไข่แต่กลับแจ้งต่อยูเอ็นเอชซีว่าไม่ได้เดินทางไป
ส่วนกรณีที่มีสื่อตะวันตกรายงานว่ามีการพบหลุมฝังศพหมู่ชาวโรฮิงญานั้น ผลสอบพบว่าเป็นสมาชิกกองทัพกอบกู้อาระกัน โรฮิงญา 10 คน ที่ถูกจับกุมและถูกประหารและนำศพไปฝังในวันต่อมา สำหรับนักข่าวรอยเตอร์ส 2 คนที่ถูกจับนั้นไม่ใช่เป็นเพราะเข้าไปรายงานข่าวโรฮิงญาแต่ถูกจับในข้อหามีเอกสารลับของทางราชการไว้ในครอบครอง.-สำนักข่าวไทย