นครปฐม 30 ม.ค.-“หลวงพี่น้ำฝน” ร่วมสนับสนุนทุนการศึกษา เพื่อเป็นกำลังใจ “น้องเฟิร์น” เด็กหญิงยอดกตัญญูวัย 12 ปี พร้อมย้ำ หากไม่มีใครอุปการะดูแล วัดยินดีให้มาพักอยู่ที่วัด และส่งเสียจนจบ ป.ตรี-ป.เอก
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพร้อมกับนายกิ่ง ลิ้มประสาท ผอ.โรงเรียนบ้านหนองกะโดน และ เด็กหญิงบุญรัตน์ หรือ “น้องเฟิร์น” สาละสาลิน เด็กหญิงยอดกตัญญูวัย 12 ปี ที่ต้องขาดเรียนกว่า 1 เดือน เพื่อมาดูแลแม่ที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย หลังได้รับการประสานจากพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ซึ่งประสงค์จะร่วมสนับสนุนทุนการศึกษา พร้อมมอบจักรยานและอุปกรณ์กีฬา เพื่อเป็นกำลังใจให้น้องเฟิร์นได้ทำหน้าในการดูแลแม่อย่างเต็มที่
พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ “หลวงพี่น้ำฝน” บอกว่า เห็นความตั้งใจและความกตัญญูของน้องเฟิร์น และยิ่งน้องเฟิร์นอยู่ในนครปฐม ก็จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือดูแล เพราะเป็นเด็กดีและเป็นแบบอย่างให้กับเยาวชนเรื่องความกตัญญต่อบุพการี หากน้องเฟิร์นไม่มีใครอุปการะดูแล วัดไผ่ล้อมยินดีให้น้องเฟิร์นมาพักอาศัย และจะส่งเสียให้ศึกษาต่อจนจบในระดับปริญญาตรี หรือ หากน้องเฟิร์นอยากจะศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นไปอีก เช่น ระดับ ปริญญาโท หรือปริญญาเอกก็ยินดีจะส่งเสียให้อย่างเต็มที่
ด้านนายกิ่ง ลิ้มประสาท ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านหนองกะโดน บอกว่า หลังจากที่ได้เปิดบัญชี รวมน้ำใจให้ เด็กหญิงบุญรัตน์ สาละสาลิน” มียอดเงินบริจาคแล้ว 70,000 บาท รวมเงินบริจาคของพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ เป็นเงินกว่า 80,000 บาท โดยต้องขอขอบคุณผู้ใจบุญที่ช่วยเหลือครอบครัว และส่วนหนึ่งอยากชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่มีผู้ประสงค์จะบริจาคเงินเข้าบัญชี สอบถามมาว่า ทำไมโอนเงินเข้ามาแล้วแต่เป็นชื่อบัญชี นายกิ่ง ลิ้มประสาท อยากชี้แจงว่าในการเปิดบัญชี เปิดในชื่อ “รวมน้ำใจ ให้ เด็กหญิงบุญรัตน์ สาละสาลิน” แต่มีการใช้ชื่อในบัญชี 3 คน คือ นายกิ่ง ลิ้มประสาท นางสาวสาวิตรี ถนอมชาติ ครูประจำชั้น และชื่อน้องเฟิร์น ส่วนที่เห็นชื่อตนนั้น จากการสอบถามธนาคารแจ้งว่าเป็นเพราะมีการโอนบัญชีต่างธนาคาร ทำให้เมื่อมีการโอนเงินเข้าบัญชีจึงเห็นชื่อตนเป็นลำดับแรก แต่หากโอนบัญชีผ่านธนาคารออมสินกับธนาคารออมสิน จะเห็นเป็นชื่อบัญชี “รวมน้ำใจให้กับ เด็กหญิง บุญรัตน์ สาละสาลิน” ตอนนี้ธนาคารฯ กำลังดำเนินแก้ไขเพื่อป้องกันการสับสนในการโอนเงินช่วยเหลือน้องเฟิร์น.-สำนักข่าวไทย