เปิดสถิติ 7 วันเฝ้าระวังอันตราย 5 ปีย้อนหลัง

อสมท 28 ธ.ค.-เมื่อวานนี้ Big Story สำนักข่าวไทย ได้รายงานข้อมูลสถิติการเกิดอุบัติเหตุในช่วงปีใหม่ 3 ปีย้อนหลังแล้ว วันนี้เราจะลงลึกกันไปอีกในช่วง 7 วันเฝ้าระวังอันตรายของแต่ละปี ย้อนหลังไปอีก 5 ปี


สำนักข่าวไทย เดินหน้าตรวจสอบข้อมูลจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และ ศปถ. พบว่า 5 ปีย้อนหลังของสถิติอุบัติเหตุ พบว่ามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 พบว่ามีการเกิดอุบัติเหตุ 3,176 ครั้ง เสียชีวิต 366 คน และบาดเจ็บ 3,329 คน ส่วนปี 2557 พบว่าเกิดอุบัติเหตุ 3,174 ครั้งใกล้เคียงกับปี 2556 ส่วนผู้เสียชีวิต 367 คน และบาดเจ็บ 3,344 คน


ในปี 2558 มีอุบัติเหตุลดลงจากเดิมคือ 2,997 ครั้ง เสียชีวิตก็ลดลง 341 คน และบาดเจ็บก็ลงลด 3,117 คน แต่ทว่าในปี 2559 ยอดการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มสูงเป็น 3,379 ครั้ง เสียชีวิตเพิ่มเป็น 380 คน และมีผู้บาดเจ็บ 3,505 คน กระทั่้งปีที่แล้ว 2560 เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ 3,919 ครั้ง เสียชีวิตมากกว่าเดิมเกือบเท่าหนึ่ง คือ 478 คน และบาดเจ็บมากกว่าเดิม 4,128 คน


ส่วนตัวเลขจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตในช่วงเฝ้าระวังอุบัติเหตุเทศกาลปีใหม่ พบว่าในปี 2556 มีถึง 6 จังหวัด ประกอบด้วยอุตรดิตถ์, หนองคาย, ตราด, นครนายก, พังงา และระนอง ถัดมาปี 2557 ลดลง 1 จังหวัดจากเดิมมี แม่ฮ่องสอน, บึงกาฬ, ตราด, ปัตตานี และพังงา ขณะที่ปี 2558 มีเพียง 2 จังหวัด ที่ไม่มีผู้เสียชีวิตในเทศกาล ประกอบด้วย สิงห์บุรี และนครพนม ส่วนในปี 2559 มี 4 จังหวัดที่ไร้ยอดผู้เสียชีวิต ประกอบด้วยตรัง, แพร่, ระนอง และสุโขทัย และในปีที่แล้ว 2560 มี 4 จังหวัดเช่นกัน ได้แก่ แม่ฮ่องสอน, ยะลา, ระนอง และสตูล

ทั้งนี้ ตัวเลขการเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงยอดผู้เสียชีวิตและยอดผู้บาดเจ็บ พบว่าในภาพรวมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้มีการรณรงค์อย่างเข้มข้นจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการตรวจรถ, ตรวจสภาพผู้ขับรถ รวมถึงมาตรการต่างๆ ป้องกันการเมาแล้วขับ, โครงการเมาแล้วขับ จับยึดรถ และตรวจสอบผู้ขับขี่รถโดยสารสาธารณะ อีกทั้งในปีนี้มีการเตรียมตรวจเลือดผู้ขับขี่รถที่ประสบอุบัติเหตุ ว่ามีแอลกอฮอล์ในเลือดหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าเมาก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างหนัก โดยภาพรวมต้องจับตามองว่า ในปีนี้ยอดผู้เสียชีวิตจะกระเตื้องขึ้นจากเดิมหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”