ชัยนาท 26 ธ.ค.-สาวเชียร์เบียร์ จ.ชัยนาท เดินทางเข้าแจ้งความเพื่อบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หลังมีชายโทรหาอ้างว่าโดนคดีความและเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
น.ส.วันนิศา คงพิพัฒนา อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดชัยนาท ภรรยาเจ้าของอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ ซึ่งมีอาชีพเสริมเป็นสาวเชียร์เบียร์ เดินทางมาพร้อมกับสามี เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.วัชรพล เนียมเนตร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชัยนาท เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หลังจากได้รับโทรศัพท์จากผู้ชาย 2 คน อ้างว่าเป็นตำรวจกล่าวหาว่า “น.ส.วันนิศา” เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายยักยอกทรัพย์ และเกี่ยวข้องกับการค้ายาบ้า คาดว่าเป็นพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหลอกลวง แม้จะยังไม่สูญเงินไป แต่เพื่อความปลอดภัยและกลัวจะมีความผิด จึงได้เข้าแจ้งความ
น.ส.วันนิศา เล่าว่าเมื่อเช้านี้ตนได้รับโทรศัพท์หมายเลข 032-996828 แล้วได้โอนสายให้คุยกับนายสรชัย เนื้อแก้ว โดยนายสรชัย บอกว่าตนมีหมายศาลเกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมกับธนาคารกสิกรไทย สาขาประจวบคีรีขันธ์ จากนั้นได้โอนสายให้คุยกับ ร.ต.ท.มนตรี เอี่ยมอาษา ซึ่งบอกว่าตนได้ถูกฟ้องในคดีเกี่ยวกับสินเชื่อที่เป็นหนี้อยู่ 490,000 บาท และบอกว่าตนเข้าไปเกี่ยวข้องกับผู้ค้ายาบ้าที่ชื่อวันเพ็ญ ซึ่งถูกจับได้พร้อมยาบ้า 10,000 เม็ด และจะมีการแถลงข่าวทางช่อง 9 และยังบอกอีกว่านางวันเพ็ญได้โอนเงินจำนวน 2 ล้านบาท เข้าบัญชีธนาคารของตน แต่ตนก็ได้บอกไปว่าเงินในบัญชีธนาคารของตนนั้นมีไม่ถึง 100 บาท และตนมีรายได้แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น บางครั้งยังต้องขอเงินพ่อแม่ใช้อยู่เลย ทำให้ชายคนดังกล่าวพยายามคุยเรื่องต่างๆ ลักษณะคล้ายกับที่คุยกับพนักงานสาวธนาคารไทยพาณิชย์ที่เคยเป็นข่าวก่อนหน้านี้ หลังจากที่คุยกันอยู่นานประมาณ 30 นาที ตนได้ยืนยันไปว่าไม่มีเงินในบัญชีธนาคารจริงๆ ชายคนดังกล่าวก็วางสายไป แต่ก่อนวางสายได้พูดจาหยอดกับตนว่าอยู่ห้องคนเดียวพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือตนทุกอย่าง หลังวางสายโทรศัพท์ตนมั่นใจว่าเป็นพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหลอกลวงแน่ รู้สึกกลัวว่าจะมีความผิดและจะเข้าไปพัวผันกับการค้ายาเสพติด ตามที่ถูกกล่าวอ้าง อีกทั้งยังได้บอกหมายเลขบัตรประชาชนไป เพราะกลัวว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะนำไปใช้ในทางไม่ดี จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับตำรวจไว้เป็นหลักฐาน.-สำนักข่าวไทย