กทม.18 ธ.ค.-มารดานำลูกสาว ถูกเพื่อนเป็นทหารเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันข่มขืน เมื่อปลายปี 58 ร้อง ผบช.น. ตรวจสอบตำรวจ สน.ดอนเมือง ใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ ปล่อยคดีหมดอายุความ
มารดาพร้อมผู้เสียหายที่ถูกรุ่นพี่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ย่านบางเขน ข่มขืน เดินทางเข้าพบพลตำรวจโทชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อขอให้ตรวจสอบการทำงานของตำรวจ สน.ดอนเมือง หลังไม่รับแจ้งความในคดีข่มขืนซึ่งตนเป็นผู้เสียหาย ทั้งยังใช้วาจากริยาไม่สุภาพ ปล่อยให้คดีล่วงเลยจนหมดอายุความ
มารดาผู้เสียหาย เล่าว่า ลูกสาวถูกรุ่นพี่มหาวิทยาลัยเดียวกัน ซึ่งเป็นทหารข่มขืนช่วงปลายปี 2558 หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความกับตำรวจสน.ดอนเมือง แต่ตำรวจไม่รับแจ้ง โดยกล่าวหาว่าลูกสาวตนบรรลุนิติภาวะแล้ว ไม่น่าจะถูกบังคับข่มขืน จากนั้นทางมหาวิทยาลัยได้เชิญตนพร้อมลูกสาวไปให้ข้อมูล โดยแยกสอบถามตนกับลูกสาวคนละห้อง ตนมาทราบภายหลังว่า ลูกสาวถูกผู้บังคับบัญชาของผู้ถูกกล่าวหา ข่มขู่ บังคับให้ยอมรับว่า เป็นการสมยอมทั้ง 2 ฝ่าย ไม่อย่างนั้นจะไล่ออกจากมหาวิทยาลัยและผู้ถูกกล่าวหา ยังมีการโพสต์เฟซบุ๊กประจานลูกสาวตนด้วย จึงจำเป็นต้องยอมความ ล่าสุดตำรวจได้ติดต่อออกเลขคดีให้เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ซึ่งใกล้วันหมดอายุความของคดี ตนรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม และขอให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลตรวจสอบตำรวจที่ปฏิบัติแบบนี้ว่าเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ พร้อมขอให้ช่วยเร่งรัดเรื่องคดีความ เพราะเกรงว่าผู้ถูกกล่าวหาจะหลบหนี
พลตำรวจโทชาญเทพ เปิดเผยหลังสอบปากคำผู้เสียหายว่า ได้สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตำรวจ สน.ดอนเมือง และ สน.ยานนาวา หลังแม่ผู้เสียหายแจ้งความถูกคู่กรณีโพสต์เฟซบุ๊กในลักษณะหมิ่นประมาท เนื่องจากผู้เสียหายยืนยันว่าตำรวจ 2 สน.มีการใช้วาจาไม่สุขภาพขณะรับแจ้งความ ส่วนคดีข่มขืนของ สน.ดอนเมือง คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายได้ตกลงยอมความกันเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ข้อหากักขังหน่วยเหนี่ยว ที่สน.บางเขน ตำรวจได้ส่งฟ้องต่อศาลแล้ว โดยมีอาจารย์ที่เกี่ยวข้องรวมถึงผู้บังคับบัญชาของคู่กรณีด้วย.-สำนักข่าวไทย
