ปราจีนบุรี 4 ธ.ค. – นายแสงชัย แหเลิศตระกูล หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “หมอแสง” เปิดห้องผลิตยาสมุนไพรให้สำนักข่าวไทยเข้าชม พร้อมเล่าขั้นตอนการผลิตยาสมุนไพร ที่ต้องมีการผสมวัตถุดิบกว่า 6 เดือน ก่อนนำมาแจกชาวบ้าน ขณะเดียวกัน กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้เก็บตัวอย่างยาไปตรวจประสิทธิผลและหาว่ามีผลข้างเคียงเป็นอันตรายหรือไม่
นี่เป็นสถานที่ผลิตยาสมุนไพรที่เชื่อว่ารักษามะเร็งได้ ของนายแสงชัย แหเลิศตระกูล หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “หมอแสง” อาคารแห่งนี้ตั้งอยู่หน้าบ้านของนายแสงชัย ภายในถูกแบ่งเป็น 2 ห้อง ซึ่งใช้เป็นที่ผลิตยา อีกห้องเป็นที่เก็บอุปกรณ์ต่างๆ
อย่างห้องขนาดเล็กที่มีอุปกรณ์เพียงไม่กี่อย่างห้องนี้ ถูกใช้เป็นห้องผสมวัตถุดิบ บดอัดยา และบรรจุยาลงแคปซูล ก่อนแจกจ่ายให้ประชาชน ซึ่งทุกขั้นตอนทำโดยใช้เจ้าหน้าที่ที่แต่งกายมิดชิด ใส่เสื้อคลุมและหมวกคลุมผม
นายแสงชัย อธิบายว่า การแจกยาสมุนไพรในแต่ละครั้งจะผลิตใหม่ทุกรอบ โดยสมุนไพรทุกชนิดซื้อมาจากร้านยาจีน และมีผู้ป่วยบางรายนำมาให้ โดยจะต้องผ่านการอบและบ่มจนแห้ง ก่อนนำมาผสมจนเป็นเนื้อเดียวกัน และเก็บเป็นหัวเชื้อ เมื่อถึงเวลาจะนำมาบรรจุลงในแคปซูล และจัดเป็นชุด ชุดละ 10 เม็ด
สูตรยาสมุนไพรรักษามะเร็งของนายแสงชัย ใช้รำข้าวที่ร่อนแล้วเป็นส่วนประกอบหลัก ส่วนที่เหลือเป็นข้าวเย็นเหนือ ข้าวเย็นใต้ เห็ดกระถินพิมาน เกสรพิลันกาสา และส่วนผสมอื่นๆ ที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ โดยนายแสงชัย ระบุว่า ได้สูตรยานี้มาจากชาวกัมพูชาคนหนึ่ง ก่อนนำมาต่อยอดและปรับเปลี่ยนสูตรยาให้เหมาะสม
ส่วนเรื่องเงินทุนที่นำมาใช้ในการผลิตยาสมุนไพรแต่ละครั้ง นายแสงชัยไม่ขอเปิดเผยจำนวนเงิน แต่บอกว่าเป็นทุนส่วนตัว และมีกลุ่มเพื่อนช่วยกัน ขณะเดียวกัน สมุนไพรบางตัวมีราคาไม่แพงมาก เช่น รำข้าวที่เป็นวัตถุดิบหลัก หนึ่งครั้งใช้ 25 กิโลกรัม คิดเป็นเงินประมาณ 1,400 บาท ส่วนเรื่องความสะอาดของการผลิตยา นายแสงชัย ชี้แจงว่า ยาที่ผลิตทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐาน มีสถานที่เป็นสัดส่วนและมิดชิด
ขณะที่การแจกยาสมุนไพร เมื่อวานนี้ (3 ธ.ค.) กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างผู้รับยาเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นไปตามแผนการวิจัยสูตรสมุนไพรของนายแสงชัย นอกจากนี้ มีการเก็บตัวอย่างยา 200 เม็ด เพื่อนำไปตรวจดูประสิทธิภาพและผลข้างเคียงยาสมุนไพรว่ามีอันตรายหรือไม่. – สำนักข่าวไทย