กทม.23 พ.ย.- จับต่างด้าว สร้างทะเบียนบ้านปลอม ก่อนสวมบัตรประชาชนเป็นคนไทยเข้ามาประกอบธุรกิจนำเที่ยวต่ำกว่าทุน
พลตำรวจตรีชัยวัฒน์ ฉันทวรลักษณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ในฐานะรองหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน คดีทุจริตสวมบัตรประชาชน และพลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รักษาราชการแทน รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมผู้กำกับ สน. ดุสิต แถลงจับกุมนางกานดา เฉิน อายุ 44 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัทอาร์เอ็กซ์ ทราเวล แอนด์ เทรดดิ้ง จำกัด หน้าอาคาร คันต้า กรุ๊ป ซอยนวลจันทร์ หลังมีพฤติการณ์ เป็นบุคคลต่างด้าวสวมบัตรประชาชนเป็นคนไทย โดยการจัดทำเอกสารในการขอเพิ่มชื่อเข้าทะเบียนบ้าน ซึ่งได้รื้อถอนและจำหน่ายออกจากระบบแล้วโดยทุจริตก่อนยื่นขอจดทะเบียนประกอบธุรกิจนำเที่ยว โดยดำเนินธุรกิจที่ต่ำกว่าทุนหรือทัวร์ศูนย์เหรียญ
จากข้อมูลตำรวจพบเมื่อปี 2532 มีการเพิ่มชื่อ นางสาวกานดา พยัพเดช ใส่ในทะเบียนบ้าน เลขที่ 92 หมู่ 5 ถนนไผ่ล้อม อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร ต่อมาเมื่อปี 2534 มีการจำหน่ายชื่อออกจากบ้านเลขที่ดังกล่าว จากนั้นเมื่อปี 2541 ใช้ชื่อนางสาวกานดา พยัพเดช แจ้งทำบัตรใหม่ที่เขตดุสิต ต่อมาปี 2542 แจ้งเปลี่ยนนามสกุลเป็น เฉิน , ปี2543 ใช้ชื่อนางกานดา เฉิน แจ้งบัตรหาย ,ปี 2550 ใช้ชื่อนางกานดา เฉิน แจ้งทำบัตรใหม่ , ปี 2553 ใช้ชื่อนางกานดา เฉินแจ้งบัตรหาย และปี 2556 ใช้ชื่อนางกานดา เฉิน แจ้งบัตรหาย โดยการแจ้งบัตรหายและทำบัตรใหม่ ของผู้ต้องหา เกิดขึ้นที่เขตดุสิต
นางกานดา อ้างเป็นคนไทยไม่มีพ่อแม่ โดยลุงที่เสียชีวิตไปก่อนหน้าพาไปดำเนินการทั้งการสร้างทะเบียนบ้านปลอมเพื่อนำไปทำบัตรประชาชน ที่จังหวัดพิจิตร
ด้านพลตำรวจตรีชัยวัฒน์ กล่าวว่า ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของนางกานดา อยู่ระหว่างตรวจดีเอ็นเอพิสูจน์ทราบสัญชาติ จากข้อมูลพบว่ามีการสร้างทะเบียนบ้านปลอม ที่อำเภอโพธิประทับช้าง จังหวัดพิจิตร โดยอุปโหลกชื่อบิดามารดา และลูกอีก 3 คนคือ นางกานดา,นางสาวสุนีย์ และ นางสาวมาลี เมื่อมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ไปทำบัตรประชาชน จดทะเบียนทำธุรกิจนำเที่ยว ต่อมาตำรวจจับกุมนางสาวสุณีย์ ได้ที่ลานจอดรถอาคารชุดจอห์นนี่ทาวเวอร์ ย่านห้วยขวาง โดยให้การว่าไม่รู้จักกับนางกานดา ขณะที่สอบสวนนายสมใจ พยัพเดช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 อ. โพธิประทับช้าง ยืนยันว่า ไม่มีบ้านเลขที่ 92 ในหมู่ 5 และไม่รู้จักนางกานดา จากนี้จะประสานกับ กระทรวงมหาดไทย ออกเป็นคำสั่งปราบปรามขบวนการดังกล่าวต่อไป
พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากสถิติในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา มีการจับกุมขบวนการดังกล่าว ทั้งสร้างทะเบียนบ้านปลอม และสวมบัตรประชาชนเพื่อได้เป็นสิทธิ์เป็นคนไทย นำไปจดทะเบียนประกอบธุรกิจนำเที่ยวต่ำกว่าทุน ไปแล้วกว่า 40 ราย จาก 34,000 ราย โดยจะเร่งประสานกระทรวงการท่องเที่ยวฯและกระทรวงพาณิชย์ เพิกถอนใบอนุญาตการประกอบธุรกิจการเป็นบริษัททัวร์ปลอม พร้อมเร่งขยายผล จับกุมขบวนการที่เหลือ หากมีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องจะดำเนินคดีทั้งทางวินัยและอาญา ส่วนสถานการณ์ทัวร์ศูนย์เหรียญในปัจจุบัน ดีขึ้นตามลำดับ เพราะรัฐบาลปราบปรามและแก้ปัญหาอย่างจริงจัง ทำให้ปัญหาการทำทัวร์ที่ไม่ได้คุณภาพไม่มีแล้ว และนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยงในไทยล้วนแต่เป็นนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ .-สำนักข่าวไทย