สนามหลวง 7 ต.ค.-ประชาชนจำนวนมากชมการซ้อมย่อยริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ครั้งที่ 1 งดงามสมพระเกียรติ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การซ้อมย่อยริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ครั้งที่ 1 ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง และบริเวณพระบรมมหาราชวัง ซึ่งการซ้อมในวันนี้ (7 ต.ค.) เป็นการซักซ้อมในสถานที่จริงเป็นครั้งแรก โดยเริ่มตั้งริ้วขบวนในเวลา 07.00น. และเริ่มเดินเวลา 08.00 น.
โดยริ้วขบวนที่ 1 เชิญพระโกศทองใหญ่โดยพระยานมาศสามลำคาน จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ผ่านทางประตูเทวาภิรมย์ จากนั้นใช้เส้นทางถนนมหาราช เลี้ยวเข้าสู่ถนนท้ายวัง มุ่งไปยังถนนสนามไชย จากนั้นเชิญพระโกศทองใหญ่ขึ้นประดิษฐานในบุษบกพระมหาพิชัยราชรถ บริเวณหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม รวมระยะทาง 817 เมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ริ้วขบวนที่ 2 เชิญพระโกศทองใหญ่ขึ้นประดิษฐานในบุษบกพระมหาพิชัยราชรถโดยเกรินบันไดนาค จากหน้าวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ไปทางถนนสนามไชย ยาตราขบวนแห่เชิญพระโกศทองใหญ่ จากถนนสนามไชย เข้าสู่ถนนราชดำเนินใน จากนั้นขบวนพระบรมราชอิสริยยศฯ แห่เชิญพระโกศทองใหญ่เข้าสู่ท้องสนามหลวง รวมระยะทาง 890 เมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
ริ้วขบวนที่ 3 ขบวนพระบรมราชิสริยยศฯ เชิญพระโกศพระบรมศพโดยราชรถปืนใหญ่ เวียรรอบพระเมรุมาศ โดยอุตรวัฏ 3 รอบ และเชิญพระโกศทองใหญ่ขึ้นประดิษฐานบนพระเมรุมาศ
ทั้งนี้ การซ้อมย่อยริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ ทั้ง 3 ริ้วขบวน เสร็จสิ้นลงแล้วในช่วงบ่ายที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้เปิดให้ประชาชนเข้าไปในพื้นที่ผ่านจุดคัดกรอง ตั้งแต่เวลา 05.00 น. โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และจิตอาสาดูแลความเรียบร้อยให้กับประชาชนบริเวณโดยรอบ ซึ่งจุดที่ประชาชนจะได้ชมความงามของขบวนพระบรมราชอิสริยยศฯ ได้ใกล้ที่สุด คือ ถนนราชดำเนินใน ไม่เกินศาลฎีกา กึ่งกลางถนนสนามหลวง
สำหรับเส้นทางอื่นที่ไม่ได้เปิดให้ประชาชนชื่นชมความงามและร่วมแสดงความจงรักภักดี เนื่องจากกรุงเทพมหานครกำลังปรับปรุง และตกแต่งพื้นที่ให้เกิดความเรียบร้อยสวยงามสมพระเกียรติ เพื่องานพระราชพิธีฯ ในช่วงวันที่ 25-29 ตุลาคม 2560 โดยหลังจากการซ้อมในวันนี้ (7 ต.ค.) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะประเมินสถานการณ์ต่าง ๆ ก่อนให้ข้อสรุปในการซ้อมอีก 2 ครั้ง คือ วันที่ 15 ตุลาคม และ 21 ตุลาคม 2560 ต่อไป.-สำนักข่าวไทย