แนะผู้ปกครองหมั่นดูแลบุตรหลาน โรคไข้อีดำอีแดงระบาดในเด็ก

กทม. 1 มี.ค.-กรมการแพทย์ แนะผู้ปกครองไม่ควรตื่นตระหนก จากสถานการณ์การระบาดของโรคไข้อีดำอีแดง แต่ให้ระมัดระวังและเฝ้าสังเกตอาการในเด็ก ดูแลสุขอนามัยอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ เนื่องจากโรคนี้ไม่สามารถหายได้เอง ทั้งยังมีภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตรายได้

นายแพทย์ธนินทร์ เวชชาภินันท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคไข้อีดำอีแดง หรือ Scarlet Fever เป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียสเตร็ปโตคอคคัสกลุ่มเอ (Group A Streptococcus) การแพร่ระบาดอาจเนื่องมาจากการกลับมาใช้ชีวิตปกติหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และการสะสมของประชากรที่ไม่มีภูมิคุ้มกันเพิ่มขึ้น หรือที่เรียกว่า immunity debt สำหรับผู้ที่เคยเป็นโรคนี้มาก่อน ยังมีโอกาสเป็นซ้ำได้ เนื่องจากภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นหลังการติดเชื้อไม่ได้อยู่ถาวร และเชื้อสเตร็ปโตคอคคัส group A มีหลายสายพันธุ์ แต่มีเพียงบางสายพันธุ์ที่สร้างสารพิษนี้และทำให้เกิดโรคไข้อีดำอีแดง สายพันธุ์ที่พบว่าทำให้เกิดโรคนี้บ่อย ได้แก่ สายพันธุ์ที่มี emm type 12 และ emm type 1 การเฝ้าระวังและติดตามการระบาดของสายพันธุ์เหล่านี้จึงมีความสำคัญในการควบคุม


นายแพทย์อัครฐาน จิตนุยานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โรคไข้อีดำอีแดง พบได้บ่อยในเด็กช่วงอายุ 5-15 ปี เชื้อนี้สามารถติดต่อได้ง่าย ผ่านทางการไอ จาม สัมผัสสารคัดหลั่ง หรือใช้ของร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ ช้อน หรือผ้าเช็ดหน้า กลุ่มที่ต้องระวังเป็นพิเศษได้แก่ เด็กในวัยเรียน ผู้ที่อยู่ในสถานที่แออัดอาการของโรคไข้อีดำอีแดง คือ ไข้สูง เจ็บคอ ต่อมทอนซิลบวมแดง มีจุดหนอง หรือฝ้าขาวบริเวณทอนซิล และมีผื่นแดงคล้ายกระดาษทราย ขึ้นตามลำตัวแล้วกระจายไปแขนขา ผิวแดงคล้ายถูกแดดเผา แต่บริเวณรอบปากจะซีด และมีลิ้นแดงคล้ายผลสตรอเบอร์รี่ บางรายอาจมีอาการปวดหัว คลื่นไส้ อาเจียน หรือปวดท้องร่วมด้วย การรักษาจำเป็นต้องได้รับยาปฏิชีวนะที่เหมาะสม เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น เช่น ไตอักเสบ หรือไข้รูมาติก โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายเป็นปกติภายใน 7-10 วันหลังได้รับการรักษา ด้วยยาปฏิชีวนะ ดังนั้น เน้นย้ำถึงความสำคัญของการรับประทานยาปฏิชีวนะให้ครบตามกำหนด แม้ว่าอาการจะดีขึ้น หากรับประทานยาไม่ครบกำหนดอาจทำให้เชื้อยังหลงเหลืออยู่ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง เช่น โรคหัวใจรูห์มาติก หรือไตอักเสบ

ทั้งนี้ ผู้ปกครองควรหมั่นสังเกตอาการของเด็กต่อไปอีกประมาณ 2-3 สัปดาห์หลังจากการรักษา เพื่อเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นหากพบว่าเด็กมีอาการตัวบวม ปัสสาวะออกน้อยลง หรือปัสสาวะมีสีแดงผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของภาวะไตอักเสบ หรือหากมีอาการเหนื่อยง่าย หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของภาวะแทรกซ้อนทางหัวใจ ควรรีบนำเด็กไปพบแพทย์ทันที.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“โรม” ตั้งกระทู้ถามปมคุณสมบัติ ปธ.กสทช.

“โรม” ตั้งกระทู้ถาม ปม คุณสมบัติ ปธ.กสทช. ปูดคนรัฐบาลมีความสัมพันธ์กับ กสทช. เรื่องจึงไม่ขยับ ด้าน “ประเสริฐ” ปัดดองเรื่อง ขณะนี้ยื่นศาลรธน.ตีความแล้ว รอคำวินิจฉัย ยืนยันรัฐบาลแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากการทำงาน ยึดประโยชน์ประชาชน

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

จับเว็บพนัน

ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง มีนักแสดงตัวประกอบเอี่ยวด้วย

ตำรวจไซเบอร์ ทลายเครือข่ายเว็บพนัน 2 จุด กลางกรุง พบเงินหมุนเวียนเดือนละ 100 ล้าน มีนักแสดงตัวประกอบร่วมขบวนการ

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

ข่าวแนะนำ

น้ำตาท่วมวัด ฌาปนกิจเหยื่อรถบัสมรณะ

จังหวัดบึงกาฬ จัดพิธีฌาปนกิจศพผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถบัสพลิกคว่ำที่จังหวัดปราจีนบุรี ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความอาลัยของญาติและประชาชนในพื้นที่

“ทรัมป์-เซเลนสกี” ปะทะคารมเดือดระหว่างหารือที่ทำเนียบขาว

วอชิงตัน 1 มี.ค. – การหารือระหว่างประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ที่ทำเนียบขาว ในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น จบลงอย่างล้มเหลวสิ้นเชิง หลังจากทั้งสองปะทะคารมกันอย่างดุเดือดต่อหน้าสื่อเกี่ยวกับสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน

“กุ้ง สุธิราช” เศร้า ทีมขนอุปกรณ์คณะลิเกถูกรถชนตกสะพานดับ

“กุ้ง สุธิราช” เศร้า ทีมขนอุปกรณ์คณะลิเกถูกรถชนตกสะพานเสียชีวิต ขณะยืนโบกรถที่จอดเสียบริเวณเชิงสะพานทางขึ้นต่างระดับฉิมพลี