วอชิงตัน 27 ก.พ.- ผู้พิพากษาศาลฎีกาสหรัฐสั่งพักการใช้คำสั่งของศาลแขวงที่ขีดเส้นตายให้รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ จ่ายเงินช่วยเหลือต่างประเทศให้แก่ผู้รับก่อนเที่ยงคืนวันพุธตามเวลาสหรัฐ
นายจอห์น โรเบิร์ตส ผู้พิพากษาศาลฎีกามีคำสั่งชั่วคราวระงับการบังคับใช้คำสั่งของนายอามีร์ อาลี ผู้พิพากษาศาลแขวงในกรุงวอชิงตัน เพื่อให้ศาลฎีกามีเวลาเพิ่มเติมในการพิจารณาคำขออย่างเป็นทางการของรัฐบาลที่ต้องการให้ขัดขวางคำสั่งของนายอาลี ผู้พิพากษายังได้ขอให้โจทก์ซึ่งเป็นองค์กรที่มีสัญญาหรือได้รับเงินช่วยเหลือแบบให้เปล่าจากองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐหรือยูเอสเอด (USAID) และกระทรวงต่างประเทศ แสดงความเห็นต่อศาลภายในเที่ยงวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น
รัฐบาลทรัมป์ได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเมื่อวันพุธว่า ได้ตัดสินใจชี้ขาดแล้วว่าจะยุติสัญญาและเงินช่วยเหลือต่างประเทศส่วนใหญ่ และไม่สามารถทำตามเส้นตายของนายอาลีที่ให้จ่ายเงินช่วยเหลือก่อนเที่ยงคืนวันเดียวกัน ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ระงับการจ่ายเงินช่วยเหลือส่วนใหญ่ แม้ว่านายอาลีมีคำสั่งชั่วคราวเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ให้จ่ายเงินเหล่านี้ และมีคำสั่งตามมาอีกหลายครั้ง นำมาซึ่งการขีดเส้นตายดังกล่าว

โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า รัฐบาลกำลังตัดลดสัญญาความช่วยเหลือต่างประเทศของยูเอสเอดมากกว่าร้อยละ 90 และตัดลดความช่วยเหลือทั่วโลกลงมากกว่า 58,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 1.96 ล้านล้านบาท)
นายทรัมป์มีคำสั่งตั้งแต่วันรับตำแหน่ง 20 มกราคม 2568 ให้ระงับการให้ความช่วยเหลือต่างประเทศทั้งหมดเป็นเวลา 90 วัน ส่งผลให้ภารกิจการบรรเทาทุกข์ทั่วโลกตกอยู่ในความโกลาหล ความช่วยเหลือต่างประเทศของสหรัฐร้อยละ 60 บริหารโดยยูเอสเอดที่ให้ความช่วยเหลือแก่ 130 ประเทศ มีคนทำงานทั้งหมด 10,000 คน ในจำนวนนี้ราว 2 ใน 3 ทำงานอยู่ในต่างประเทศ.-814.-สำนักข่าวไทย