กรมบัญชีกลาง 29 ก.ย.-กรมบัญชีกลางยืนยันเริ่มใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐตั้งแต่วันที่
1 ตุลาคมนี้และเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนผู้มีสิทธิที่อาจยังไม่เข้าใจและใช้บัตรไม่เป็น
จะยกยอดวงเงินคงเหลือในบัตรของเดือนตุลาคมให้ผู้มีสิทธิต่อไปอีก 1 เดือนในเดือนพฤศจิกายน
กรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้เริ่มแจกจ่ายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้กับผู้มีสิทธิใน
70 จังหวัดตั้งแต่วันที่
21 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา
มีผู้รับบัตรไปแล้วประมาณร้อยละ 40 ของจำนวนผู้มีสิทธิทั้งหมดและจะให้เริ่มใช้สิทธิซื้อสินค้าที่ร้านธงฟ้าประชารัฐ
ใช้เป็นส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม หรือใช้ในการเดินทางด้วยรถโดยสารขสมก./รถไฟฟ้า บขส. และรถไฟได้ ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตั้งแต่เริ่มเปิดให้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐมีจำนวนผู้มาขอรับไม่ถึงร้อยละ
50
คาดว่าหลังจากที่ใช้สิทธิผ่านบัตรได้แล้วผู้มีสิทธิจะทยอยมารับบัตรสวัสดิการกันอย่างต่อเนื่องและคงต้องใช้เวลาในการแจกจ่ายบัตรต่อไปอีกพอสมควรประกอบกับเป็นการให้สวัสดิการผ่านบัตรครั้งแรกและเป็นเรื่องใหม่ของประชาชน
ซึ่งหลายคนอาจยังไม่เคยใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ในชีวิตประจำวันและอาจไม่รู้จักร้านธงฟ้าประชารัฐหรือรู้จักแต่ไม่เคยซื้อสินค้าที่ร้านนี้มาก่อน
อีกทั้งร้านธงฟ้าประชารัฐที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ส่วนมากเป็นร้านใหม่ที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์และต้องติดตั้งเครื่อง
EDC เพื่อให้ใช้สิทธิร่วมกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้
ซึ่งขณะนี้ได้มีการติดตั้งเครื่อง EDC ทั่วประเทศแล้วกว่า 4,000 เครื่องและจะติดตั้งเพิ่มเป็น
8,000
เครื่องให้ครบทุกตำบลในวันที่ 1 ตุลาคม 2560ตามข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์
พร้อมทั้งจะทยอยติดตั้งเครื่อง EDC ให้มีจำนวนเพียงพอเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐของผู้มีสิทธิต่อไปอีก
ดังนั้น
การนำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปซื้อสินค้าที่ร้านธงฟ้าประชารัฐในช่วงแรกอาจทำให้ไม่ได้รับความสะดวกและไม่สามารถใช้วงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้อย่างเต็มที่และเพื่อให้ผู้มีสิทธิมีเวลาในการทำความรู้จักคุ้นเคยกับการใช้บัตรซื้อสินค้าที่ร้านธงฟ้าประชารัฐและสวัสดิการอื่นๆ
กรมบัญชีกลางจึงจะยกยอดวงเงินคงเหลือจากการซื้อสินค้าร้านธงฟ้าประชารัฐและสวัสดิการทุกประเภทของเดือนตุลาคมให้ไปใช้ต่อได้ในเดือนพฤศจิกายน
2560 อีก 1 เดือน
ทั้งนี้ รัฐบาลจะติดตามและประเมินผลการแจกจ่ายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐการใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
และเรื่องอื่น ๆที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดและพร้อมที่จะปรับปรุงพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน-สำนักข่าวไทย