โฆษก ศธ. โต้ “ทักษิณ” โครงสร้าง ศธ. ใหญ่เกินไป

28 ม.ค.- โฆษก ศธ. โต้ “ทักษิณ” โครงสร้าง ศธ. ใหญ่เกินไป ชี้ต้องบูรณาการร่วมกัน ส่วนจ้างครูต่างชาติจากเงินพนันออนไลน์มองครูไทยก็เก่งหากเติมทักษะความรู้ให้สม่ำเสมอ วอนรัฐจัดงบตามที่ขอ 3 ปีเห็นผลแน่นอน


นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยถึงคำกล่าวของนายทักษิณ ชินวัตร เกี่ยวกับระบบการศึกษาไทย ที่มองว่ากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ใหญ่เกินไป ส่งผลต่อการจัดการศึกษาที่สอนให้เด็กท่องจำ เด็กคิดได้น้อย ตลอดจนต้องจ้างครูจากต่างประเทศมาช่วยสอน นั้น

โฆษกกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกท่านที่มีความห่วงใยและใส่ใจต่อ ศธ. ประเด็นที่ได้รับการกล่าวถึงน่าจะเป็นประเด็นปัญหาที่มีมานานแล้ว ซึ่งในยุคของ พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ได้แก้ปัญหาในประเด็นต่าง ๆ ได้อย่างเป็นรูปธรรมที่สุด สังเกตได้จากครูที่ได้ย้าย หรือได้รับการประเมินวิทยฐานะด้วยความสามารถของตนเอง เป็นต้น พร้อมชี้แจงในประเด็นที่ได้รับการกล่าวถึง ดังนี้


ส่วนโครงสร้าง ศธ.ที่ใหญ่เกินไปเคยมีประสบการณ์ที่มีการยุบ โอนโครงการและภารกิจการบริหารงานของส่วนราชการให้เล็กลง แต่ยังไม่ได้ช่วยแก้ปัญหามากนัก จึงมองว่าสิ่งที่ต้องปรับคือ การสร้างให้เกิดการบูรณาการการทำงานภายในองค์กรร่วมกัน และให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งขณะนี้ รมว.ศธ.กำลังดำเนินการในเรื่องนี้ โดยส่วนตัวมองว่าปัจจุบัน ศธ. มีเอกภาพค่อนข้างสูง และขับเคลื่อนการดำเนินการเป็นหนึ่งเดียวกันมากกว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมา

สำหรับการจ้างครูจากต่างประเทศ ตนมองว่า ครูของเราไม่ได้ด้อยความสามารถ เพียงแต่ ศธ. จำเป็นต้องเติมความรู้ชุดใหม่ ๆ ให้บุคลากรของเราอย่างสม่ำเสมอ หรือใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาทักษะความรู้ต่าง ๆ ซึ่ง ศธ. กำลังดำเนินการในเรื่องนี้ และในปี 2568 ก็เป็นช่วงเวลาที่จะติดตามผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น ส่วนประเด็นการจ้างครูต่างชาติ ซึ่งต้องเก็บเงินจากพนันออนไลน์ได้ถึงจะมีงบประมาณเพียงพอ ประเด็นนี้มองว่าอาจไม่ได้ส่งผลต่อกันเสียทีเดียว การจ้างครูที่มีคุณภาพเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องทำอยู่แล้ว ไม่ว่าจะได้รับเงินจากพนันออนไลน์หรือไม่

ส่วนการสอนให้เด็กคิดวิเคราะห์ โดยนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ปัจจุบัน มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการเรียนและการพัฒนาคุณภาพการศึกษา เป็นผลงานที่เป็นที่ประจักษ์ของ ศธ. ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าต้องใช้ระยะเวลาและงบประมาณในการดำเนินการ ซึ่งเราไม่สามารถเปรียบเทียบคุณภาพการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนสังกัด สพฐ. กับโรงเรียนเอกชน หรือโรงเรียนของรัฐบาลด้วยกันเองได้ เนื่องจากต้นทุนต่อเด็กนักเรียน 1 คนในแต่ละโรงเรียน แตกต่างกัน


อย่างไรก็ดี ศธ. ของบประมาณในการดำเนินการ อาทิ งบประมาณสำหรับการซื้ออุปกรณ์การเรียนมาทดแทนส่วนที่ขาด เป็นต้น แต่ก็ยังไม่ได้รับงบประมาณฯ ในส่วนนี้ จึงมองว่าปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มากจากภาระด้านงบประมาณ ซึ่งหากเราได้รับงบประมาณตามที่ขอไป เพียงแค่ 3 ปี เชื่อว่า เราจะสามารถขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษาได้ง่ายขึ้น และเห็นผลได้ไวยิ่งขึ้นแน่นอน .416.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สั่งย้ายครูแบทแมน

สั่งเด้ง “ครูแบทแมน” ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน

กัน จอมพลัง บุก ก.ศึกษาธิการ ร้องเอาผิดครูชายสวมหน้ากากแบทแมน ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน จ.อุทัยธานี ล่าสุดสั่งย้าย “ผอ.โรงเรียน-ครูแบทแมน” เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้าน “สส.ชาดา-กัน จอมพลัง” ลงพื้นที่ ขีดเส้นตายสอบเอาผิด

แม่อดีตครูสาว ยังติดใจสาเหตุ หลังพบศพในรถลานจอด รพ.

“น้องกิ๊ฟ” อดีตครูหายตัวไปเกือบ 1 เดือน พบอีกทีเป็นร่างไร้วิญญาณในรถยนต์บนลานจอดของโรงพยาบาล ญาติยังติดใจสาเหตุวอนตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไขข้อสงสัย

สั่งจำคุก “อัจฉริยะ” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีละเมิดอำนาจศาล

ศาลอาญาสั่งจำคุก “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล เผยแพร่เอกสารสรุปย่อคำพิพากษาต่อสื่อมวลชนโดยไม่ได้รับอนุญาต

ข่าวแนะนำ

“กริพเพน” ครั้งแรกในไทย เครื่องบินวิ่งบนถนน

วันนี้กองทัพอากาศได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ด้วยการใช้ถนนเป็นรันเวย์สำหรับเครื่องบินรบ

รัฐบาลแจงส่ง 45 อุยกูร์ให้จีน กลับคืนสู่ครอบครัวปลอดภัย

รัฐบาลแจงเหตุส่งชาวอุยกูร์ 45 คนให้จีน ยืนยันกลับคืนสู่ครอบครัวด้วยความปลอดภัย แสดงให้เห็นว่าจีนเคารพเรื่องสิทธิมนุษยชน

เปิดใจผู้รอดชีวิตจากรถบัสมรณะ 18 ศพ

โศกนาฏกรรมรถบัสมรณะ 18 ศพ สร้างความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ให้กับชาว อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวได้สัมภาษณ์เปิดใจผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ราวกับปาฏิหาริย์

“อนุทิน” สั่งยกระดับเข้มงวดเข้าออกจุดผ่านแดนไทย

“อนุทิน” สั่งยกระดับความเข้มงวดในการเข้าออกจุดผ่านแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ป้องกัน ปราบปราม ยาเสพติด อาชญากรรมทุกประเภท ภายใต้ปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี