ขสมก. 29 ก.ย. – ขสมก.ยืนยันความพร้อมให้บริการ E-Ticket สำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการ ในวันที่ 1 ตุลาคม 2560 นี้
นายพิชิต อัคราทิตย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานเปิดระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) กล่าวว่า ระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บค่าโดยสารและช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านการจ้างพนักงานเก็บค่าโดยสาร และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้กับประชาชน เพราะไม่ต้องเสียค่าแรกเข้า
นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการแทน ผู้อำนวยการ ขสมก. เปิดเผยว่า ขสมก. พร้อมให้บริการประชาชผู้ใช้บัตรสวัสดิการของรัฐ หรือบัตรผู้มีรายได้น้อย ในวันที่ 1 ตุลาคม นี้ โดย ขสมก.ได้ติดตั้งเครื่องอ่านบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) บนรถโดยสารธรรมดา 200 คัน และจะทยอยติดตั้งให้ครบ 800 คัน ภายในวันที่ 15 พ. ย. 60 เพื่อให้สามารถรองรับการใช้บริการของประชาชน ผู้ถือบัตรสวัสดิการดังกล่าว ให้ได้รับความสะดวกในการเดินทางด้วยรถโดยสารของ ขสมก.ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั้ง ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ จะต้องนำบัตรมาแตะที่เครื่องอ่านบัตรในขณะที่ขึ้นและลงรถโดยสาร เป็นการตัดค่าโดยสารอย่างอัตโนมัติ ซึ่งรถโดยสารทั้ง 800 คัน จะติดสติกเกอร์ข้อความ “รถคันนี้รองรับระบบ E-Ticket และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแทนที่ข้อความ “รถเมล์ฟรีจากภาษีประชาชน” ที่กระจกด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังรถโดยสาร
ส่วนเครื่องเก็บเงินสดค่าโดยสาร หรือ Cash box ล็อตแรกจำนวน 100 คัน จะทยอยติดตั้งแล้วเสร็จภายในวันที่ 14 ต.ค. 60 และล๊อตที่สองอีก 700 คัน ภายในวันที่ 13 ธ.ค. 60 ส่วนล๊อตที่สาม จำนวน 1,800 คัน ภายใน 10 มิ.ย.61
ทั้งนี้ในช่วง 2 ปีแรก ที่องค์การนำระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) มาใช้บนรถโดยสาร พนักงานเก็บค่าโดยสารยังคงปฎิบัติหน้าที่บนรถ ทำหน้าที่แนะนำวิธีการใช้งานระบบใหม่ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้ มีโอกาสเรียนรู้และปรับตัว และเมื่อการใช้งานระบบ E-Ticket บนรถโดยสารเป็นไปอย่างเต็มรูปแบบ ขสมก. มีแผนดำเนินโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด เปิดโอกาสให้พนักงานเข้าร่วมโครงการได้ตามความสมัครใจโดย จะใช้ระบบค่าตอบแทน เป็นสิ่งจูงใจพนักงานให้เข้าร่วมโครงการ
เชื่อว่าประชาชนจะไม่สับสนหรือได้รับผลกระทบหลังเปิดใช้ระบบนี้ในวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งพร้อมนำคำแนะนำของประชาชนไปปรับปรุงระบบต่อไป
ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มขายซองเอกสารประกวดโครงการจัดหารถเมล์เอ็นจีวี 489 คันรอบใหม่ มูลค่า 4,021 ล้านบาท ได้ช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ ตั้งเป้าให้มีการลงนามสัญญาในเดือน พ.ย. ส่วนการส่งมอบรถนั้นกำหนดให้ส่งมอบรถให้แล้วเสร็จภายในวัน 90 วันภายหลังลงนามสัญญา คาดภายในเดือน ม.ค. 61 – สำนักข่าวไทย