ธปท.ขออย่ากังวล ยัน 5 แบงก์ใหญ่เข้ากลุ่ม D-SIBs แข็งแกร่ง

กรุงเทพฯ  26 ก.ย. – ธปท.ย้ำมาตรการ D-SIBs ช่วยสร้างความแข็งแกร่งสถาบันการเงิน ยันเงินฝากไม่ได้รับผลกระทบ ขอประชาชนอย่ากังวล


นางฤชุกร สิริโยธิน รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การประกาศหลักเกณฑ์กำกับดูแลสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (Domestic Systemically Important Banks : D-SIBs) นั้นเป็นมาตรการที่มุ่งส่งเสริมให้ระบบสถาบันการเงินโดยรวมของประเทศมีเสถียรภาพและเป็นที่ยอมรับตามมาตรฐานสากล โดยเงินฝากของประชาชนจะไม่ได้รับผลกระทบ เพราะเป็นการช่วยยกระดับความเข้มแข็งของสถาบันการเงินโดยรวม ขอให้ประชาชนอย่ากังวลใจ พร้อมย้ำว่า หลักเกณฑ์ดังกล่าวไม่ใช่มาตรการใหม่ แต่เป็นมาตรการที่หลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ฮ่องกง เนเธอร์แลนด์ เยอรมันนี เป็นต้น ประกาศและปฏิบัติก่อนหน้านี้นานแล้ว ซึ่งการที่นำมาใช้ในประเทศไทยขณะนี้ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะปัจจุบันธนาคารขนาดใหญ่ทุกแห่งมีระดับเงินกองทุนสูงกว่าเกณฑ์ที่ ธปท.กำหนดค่อนข้างมาก สะท้อนถึงความสามารถในการรองรับความเสียหายของธนาคารพาณิชย์ว่าจะสามารถรับมือยามที่ประสบปัญหาทางการเงินได้

ทั้งนี้ ธนาคารพาณิชย์ที่เป็น D-SIBs ทั้ง 5 แห่ง ต้องดำรงเงินกองทุนชั้นที่ 1 เพิ่มจากอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นต่ำอีกร้อยละ 1 ภายในปี 2563 โดยให้ทยอยดำรงเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.5 ในปี 2562 และปี 2563 ตามลำดับ  ซึ่งอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของ (CET1 Ratio) ปี 2562 อยู่ที่ร้อยละ 7.5 และปี 2563 อยู่ที่ร้อยละ 8.0 อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (CAR Ratio) ปี 2562 อยู่ที่ร้อยละ 11.5 และปี 2563 อยู่ที่ร้อยละ 12 รวมทั้งจะต้องปฏิบัติตามมาตรการกำกับดูแลอื่น ๆ เพิ่ม อาทิ การรายงานข้อมูลต่าง ๆ ทั้งนี้ ปัจจุบันธนาคารพาณิชย์ทั้ง 5 แห่ง มีความแข็งแกร่ง มีเงินกองทุนอยู่ในระดับสูงกว่าอัตราที่ ธปท. กำหนดมากและเพียงพอรองรับการดำรงเงินกองทุนส่วนเพิ่มตามมาตรการดังกล่าว


นายสมบูรณ์ จิตเป็นธม ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายสถาบันการเงิน ธปท. เปิดเผยว่า หลักเกณฑ์ที่ ธปท. ใช้พิจารณาธนาคารที่เข้าเกณฑ์ D-SIBs ประกอบด้วย 4 ปัจจัย ได้แก่ ขนาดของสถาบันการเงิน  ความเชื่อมโยงการทำธุรกรรมระหว่างกัน  การเป็นผู้ให้บริการทางการเงินที่สำคัญหรือการเป็นผู้ให้บริการหลักในโครงสร้างพื้นฐานของระบบสถาบันการเงิน และความซับซ้อนของผลิตภัณฑ์ทางการเงินหรือกระบวนการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์ตามมาตรฐานสากลที่ผู้กำกับดูแลในต่างประเทศใช้ สำหรับธนาคารพาณิชย์ที่เข้าหลักเกณฑ์ 5 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ส่วนระยะต่อไปถ้ามีธนาคารอื่นเข้าหลักเกณฑ์เพิ่มจะมีการประกาศอีกครั้ง นอกจากนี้ มั่นใจว่าจะไม่กระทบกับการดำเนินธุรกิจและให้บริการของธนาคารพาณิชย์อื่น ๆ นอกเหนือจาก 5  ธนาคารนี้ 

ส่วนกระแสข่าวว่ามีประชาชนบางพื้นที่แห่ถอนเงินจากธนาคาร 5 แห่งนี้ เพราะมีความสับสนและเกรงว่าเงินฝากของตนจะได้รับความเสี่ยงนั้น ยืนยันว่ายังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว มองว่าอาจจะเป็นความเข้าใจผิด ขอให้ประชาชนตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อน  ซึ่ง ธปท.ดูแลและติดตามอย่างใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ภรรยาหมอบุญมอบตัว

“ภรรยา-ลูก” หมอบุญ อ้างถูกปลอมลายเซ็น ไม่เคยรู้การกระทำใดๆ

ทนายความภรรยา-ลูก หมอบุญ เผยถูกปลอมลายเซ็นเอกสาร ไม่เคยรับรู้การกระทำใดๆ ของหมอบุญ โดนภรรยาได้หย่าร้างกับหมอบุญ ก่อนปี 66

น้ำผุดเชียงดาว

น้ำใต้ดินผุดท่วมอ่วม “บ้านเรือน-พื้นที่เกษตร” อ.เชียงดาว

มวลน้ำมหาศาลผุดขึ้นจากใต้ดิน เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตร และบ้านเรือนประชาชน หลายหมู่บ้าน ใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำบางจุด ท่วมบ้านเกือบถึงหลังคา พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 400 ไร่

เลือกตั้ง อบจ.

“แสวง” ลงพื้นที่สังเกตการณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี

“เลขาฯ แสวง” ลงพื้นที่ตรวจรับ-มอบอุปกรณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี พร้อมสังเกตการณ์เลือกตั้งพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) วอนประชาชนออกมาใช้สิทธิ 8.00-17.00 น.