กรุงเทพฯ 11 ธ.ค. – กทม.จับมือ TikTok สนับสนุนโครงการ #BKKFoodBank ดึงพลัง TikTok Top Creator และคอมมูนิตี้บนแพลตฟอร์ม เริ่มต้นจัดการอาหาร-สิ่งของส่วนเกิน เผย 2 ปี ลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 2 ล้าน กก. ตั้ง Food Bank ครบทั้ง 50 เขต
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครดำเนินโครงการ BKK Food Bank หรือ ธนาคารอาหารกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ปี 2565 มีเป้าหมายสำคัญเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความมั่นคงทางอาหาร และสร้างสังคมที่ยั่งยืน ขยายการรับรู้เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อให้เกิดกระแสการเปลี่ยนแปลงขึ้นจริงในสังคม ศักยภาพและพลังคอมมูนิตี้บนแพลตฟอร์ม TikTok สามารถช่วยเติมเต็มโครงการฯ ได้เป็นอย่างดี เนื่องจากมีฐานผู้ใช้งานหลายล้านคนและจุดเด่นของความเป็น Entertainment Platform ที่มักสอดแทรกสาระคู่ความบันเทิงเข้าไปในคอนเทนต์สร้างความน่าสนใจได้อย่างลงตัว โครงการ BKK Food Bank สะท้อนวิสัยทัศน์ของกรุงเทพมหานครในการเป็นเมืองแห่งการแบ่งปัน นับตั้งแต่เริ่มโครงการ กว่า 2 ปี เราได้สร้างผลลัพธ์ที่น่าภาคภูมิใจ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้กว่า 2 ล้านกิโลกรัม จัดตั้ง Food Bank ครบทั้ง 50 เขต สร้างระบบแต้มสะสมที่ช่วยเสริมพลังให้กลุ่มเปราะบาง พร้อมขอบคุณ TikTok รวมถึง Top Creator ที่ให้ความร่วมมือด้วยดีกับ กทม. มาโดยตลอด ตั้งแต่โครงการ #ไม่เทรวม และ #REactForChangeลองเปลี่ยนโลก และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะสามารถส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งการเกื้อหนุนซึ่งกันและกันอย่างยั่งยืนขึ้นได้
นางชนิดา คล้ายพันธ์ Head of Public Policy – Thailand, TikTok กล่าวว่าTikTok มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมพลังบวก และการแสดงออกถึงตัวตนอย่างสร้างสรรค์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของชุมชนที่มีนัยสำคัญในประเทศไทย การร่วมมือกับ กทม. ในโครงการ BKK Food Bank ครั้งนี้ TikTok เป็นแพลตฟอร์มการสื่อสารหลัก ที่ร่วมมือกับครีเอเตอร์ชั้นนำในการสร้างการตระหนักรู้ด้านการจัดการอาหารส่วนเกินอย่างยั่งยืน ซึ่งโครงการนี้สอดคล้องกับพันธกิจด้าน Smart Environment ซึ่งเป็นหนึ่งในสามพันธกิจหลักในการสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นในประเทศไทย เพื่อสร้างผลลัพธ์ที่เป็นจริงและส่งผลเชิงบวกต่อสังคมแบ่งปัน
โครงการ BKK Food Bank เป็นโครงการที่ริเริ่มโดยกรุงเทพมหานคร มีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมและการจัดการอาหารส่วนเกิน (Food Surplus) โดยขยะประเภทอาหารคิดเป็น 50% ของขยะทั้งหมด และใช้งบในการจัดการกว่า 7,300 ล้านบาท/ปี และมีส่วนสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่ (28 ก.พ. 2566 – 19 พ.ย 2567) สามารถแจกจ่ายอาหารไปแล้วมากกว่า 3.3 ล้านมื้อ ให้แก่กลุ่มผู้เปราะบางจำนวนกว่า 1.1 แสนราย และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ได้ถึงกว่า 2 ล้านกิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ [2] โดยในระยะเวลาไม่ถึงสองเดือน (1 ต.ค. 67 – 19 พ.ย. 67) จากการร่วมมือกับ TikTok ทำให้โครงการฯ ได้รับความสนใจไปในวงกว้างขึ้น สามารถแจกจ่ายอาหารได้มากถึง 1.1 ล้านมื้อ และลดก๊าซคาร์บอนได้มากกว่า 6.9 แสน กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์ นับเป็นความสำเร็จที่เกิดจากพลังคอมมูนิตี้ของแพลตฟอร์มอย่างแท้จริง
สำหรับโครงการ #BKKFoodBank TikTok ได้เชิญชวน TikTok Top Creator ที่มีเอกลักษณ์และความสนใจหลากหลายสาย มาร่วมสร้างสรรค์คอนเทนต์เชิงบวก พร้อมโปรโมตโครงการฯ ให้เป็นที่รู้จักในหลากหลายมิติที่กว้างยิ่งขึ้น กับผู้ติดตามที่มีความสนใจหลากหลาย เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับโครงการฯ และสร้างแรงกระเพื่อมอันนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทั้งแนวคิด วัฒนธรรมและวิถีการใช้ชีวิตใหม่ ๆ ให้กับสังคมไทย
TikTok ยังคงเดินหน้าสนับสนุนโครงการที่สร้างประโยชน์ให้กับสังคมและชุมชนต่าง ๆ ร่วมกับ กทม. โดยนำความสำเร็จมายังโครงการ #ไม่เทรวม ที่สามารถเปลี่ยน Mind Set และกระตุกไอเดียให้คนหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมด้วยการแยกขยะ ช่วยลดขยะได้สูงถึง 52 ตัน ภายใน 1 เดือน และโครงการ #REactForChangeลองเปลี่ยนโลก ที่เปิดพื้นที่ให้เยาวชนไทยมาปล่อยไอเดียสร้างสรรค์ผ่านคอนเทนต์รักษ์โลกพร้อมปลูกฝังแนวคิดการใช้ชีวิตประจำวันที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จนดันแฮชแท็กฮิตติดเทรนด์มากมาย อาทิ #TikTokรักโลก #TikTokForGoodTH #REactForChange #ECOLIFE และมีเยาวชนคนรุ่นใหม่ ๆ หันมาเป็น Creator สายสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น สะท้อนให้เห็นพลังคอมมูนิตี้บนแพลตฟอร์มที่พร้อมจุดประกายโอกาสใหม่ ๆ ตลอด
สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่แฮชแท็ก #BKKFoodBank บน TikTok หรือที่เว็บไซต์ของกรุงเทพมหานคร https://greener.bangkok.go.th/bkk-food-bank/ หรือช่อง TikTok ของกรุงเทพมหานครที่ @bangkok_bma .-516-สำนักข่าวไทย
