ปัตตานี 30 พ.ย.- เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดปัตตานี คาดหนักสุดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ท้ายน้ำ
บริเวณวงเวียนหอนาฬิกาเมืองปัตตานี จุดรวมศูนย์กลางที่จะเดินทางต่อไปยังสถานที่สำคัญๆ ของจังหวัดปัตตานี ทั้งศูนย์ราชการ ศาลากลางจังหวัด สถาบันการศึกษา และร้านค้าอีกจำนวนมาก ตอนนี้ทุกอย่างจมอยู่ใต้น้ำทั้งหมด อย่างในพื้นที่ตัวเมืองบริเวณนี้ระดับน้ำอาจสูงไม่มากอยู่ที่ระดับเข่า แต่ถ้ายิ่งเข้าลึกเข้าไปในตัวเมืองปัตตานีชั้นใน น้ำจะยิ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่รอยต่อของเมืองปัตตานีกับหนองจิก ตรงนั้นระดับน้ำสูงมากจนรถเล็กไม่สามารถวิ่งได้ ใช้ได้แค่รถบรรทุกขนาดใหญ่ของทหารหรือส่วนราชการของปภ.เท่านั้น เนื่องจากน้ำลึกและเชี่ยวมาก
สภาพพื้นที่ตลอดทางของอำเภอหนองจิก มาถึงตัวเมืองปัตตานีสาหัสมาก ทุกที่ทุกจุด กลายเป็นทะเลผืนใหญ่ บ้านเรือน รถยนต์รถจักรยานยนต์จมอยู่ใต้น้ำหลายร้อยคัน บางจุดรถยนต์จมท่วมมิดหลังคา
นางพาตีเมาะ สดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี บอกว่า สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดปัตตานีปีนี้ถือว่าหนักสุดในประวัติศาสตร์ในรอบ 30 ปี ทั้งจากปริมาณฝนสะสมในทุกอำเภอมากที่สุดในอำเภอยะรัง โคกโพธิ์ หนองจิก สายบุรีและอำเภอเมือง รวม 3 วัน ตั้งแต่ 300 มิลลิเมตรจนสูงสุดคาดว่าจะถึง 1,000 มิลลิเมตร ทำให้น้ำท่วมปัตตานีมากกว่าปกติกว่า 3 เท่า และคาดว่าสภาพน้ำท่วมในปัตตานีจะยังเป็นแบบนี้ต่อเนื่องไปอีก 7-10 วัน แต่ยังไงก็จะต้องรักษาไข่แดงโรงพยาบาลปัตตานีไว้ให้ได้ เพราะเป็นศูนย์กลางดูแลผู้ป่วย ซึ่งก่อนหน้านี้โรงพยาบาลปิดไปแล้ว 4 แห่งคือที่ รพ.หนองจิก ยะรัง และยะหริ่ง และโรงพยาบาลทุ่งยางแดง
ส่วนการช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยของจังหวัดปัตตานีตอนนี้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยช่วยกันอย่างเต็มที่ แต่หลายจุดทำได้ยากลำบากมากเพราะว่าถนนถูกตัดขาดในหลายๆ ช่วง แต่ละช่วงระดับน้ำสูง รถเล็กผ่านไม่ได้ ดังนั้นต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทหารและหน่วยกู้ภัยที่มีเครื่องมือและอุปกรณ์เข้าไปช่วยเหลือเท่านั้น โดยวันนี้จะมีเรืออีก 25 ลำ เจ็ตสกีอีก 10 ลำมาถึง และจะมีการเปิดศูนย์บัญชาการทางอากาศที่สนามบินบ่อทอง เพื่อส่งอาหารทางอากาศด้วย แต่ทั้งหมดนี้ต้องประเมินเรื่องของสภาพอากาศด้วยเช่นเดียวกันเพราะถือเป็นตัวแปรสำคัญ.-สำนักข่าวไทย