กทม. 23 พ.ย. – เจ้าของเต็นท์รถมือสอง ร้องสายไหมต้องรอด ถูกหนุ่มอ้างเป็นพนักงานราชการหลอกขายรถทิพย์ สูญเงินกว่า 200,000 บาท พบมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อแล้ว 4 ราย
นายไพรฑูลย์ อายุ 49 ปี เจ้าของเต็นท์รถแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เข้าพบนายนิรันดร์ เกแง้ว ผู้ร่วมก่อตั้งสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังถูกบุคคลที่อ้างเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง หลอกขายรถปลดประจำการ โดนตนโอนเงินมัดจำไปแล้วกว่า 200,000 บาท แต่ไม่ได้รับรถตามที่ตกลงไว้
นายไพรฑูลย์ เล่าว่า ตนเปิดเต็นท์รถมานานหลายปี เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา มีคนรู้จักมาชักชวนว่า มีรถปลดประจำการหน่วยงานราชการจะขาย หากสนใจจะพาไปดู ตนจึงไปตรวจสอบ โดยมีบุคคล 3 คน อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่พาชมรถและนำกุญแจมาให้ทดลองขับ ซึ่งรถที่นำมาเสนอขายมีรถตู้ 2 คัน, รถกระบะ 4 ประตู 1 คัน และรถ SUV 2 คัน สภาพรถยังใช้งานได้ดี หลังจากตกลงราคาเหมารวม 5 คัน เป็นเงิน 800,000 บาท ทางเจ้าหน้าที่บอกว่าต้องจ่ายเงินมัดจำ 15% หรือ 135,000 บาท ตนจึงโอนเงินไปยังบัญชีชื่อ “นายวสันต์”
ต่อมา วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 มีการติดต่อเข้ามาอีกครั้งว่า มีรถปลดประจำการเพิ่มอีก 2 คัน เป็นรถตู้ 1 คัน และรถ SUV อีก 1 คัน จึงตกลงซื้อเพิ่มและโอนเงินมัดจำ 15% เป็นจำนวน 72,000 บาท ครั้งนี้โอนเข้าบัญชีชื่อ “นางสาวศุภางค์” โดยไม่ได้เอะใจถึงความผิดปกติ เมื่อถึงกำหนดรับรถ ทางเจ้าหน้าที่รายนี้ อ้างว่ายังไม่สามารถส่งมอบได้ เนื่องจากงบประมาณยังไม่มาถึง และเลื่อนนัดไปอีก
สุดท้ายก็ไม่ได้รับรถ ตนเริ่มสงสัยและสอบถามเพื่อนในวงการเต็นท์รถ พบว่ามีคนถูกหลอกลักษณะเดียวกัน สูญเงินถึง 2 ล้านบาท แจ้งความไว้ที่ สภ.บางบัวทอง หลังจากนั้นตนจึงไปแจ้งความที่ สน.สามเสน เมื่อสอบถามไปยังหน่วยงานดังกล่าวกลับได้รับคำตอบว่าเป็นเรื่องภายใน ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ โดยขอเวลาตรวจสอบก่อน ทั้งนี้ พบว่ามีผู้เสียหายหลายรายตกเป็นเหยื่อในลักษณะเดียวกัน ล่าสุดรวบรวมผู้เสียหายได้แล้ว 4 คน
ด้านสายไหมต้องรอดเตรียมประสาน สน.สามเสน และ สภ.บางบัวทอง เพื่อติดตามความคืบหน้า เพราะผู้ก่อเหตุกลุ่มนี้ยังคงกระทำการต่อเนื่อง พร้อมฝากเตือนประชาชนและผู้ประกอบการเต็นท์รถให้ตรวจสอบข้อมูลให้รอบคอบก่อนซื้อขาย เนื่องจากมิจฉาชีพในปัจจุบันมีวิธีการหลอกลวงหลากหลายรูปแบบ.-สำนักข่าวไทย