นครราชสีมา 4 ต.ค. – พาเที่ยว “เดิ่นหินดาด” ทะเลหิน อันซีนใหม่โคราช พร้อมโบกยักษ์กว่า 10 จุด สุดว้าว
องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เขต 2 อ.ครบุรี และนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านใหม่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา นำประชาชนจิตอาสา ประมาณ 20 คน ช่วยกันทำความสะอาดและปรับสภาพภูมิทัศน์ลานหิน บริเวณปากทางเข้าวัดเขาถ้ำเต่าพันปี ต.บ้านใหม่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เตรียมผลักดันให้กลายเป็นอันซีนแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ อ.ครบุรี และ จ.นครราชสีมา ภายหลังจากที่ตรวจสอบพบว่า พื้นที่บริเวณนี้มีลักษณะพิเศษ โดยพื้นเป็นลานหินทรายขนาดใหญ่ เนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ มีสภาพถูกกัดกร่อนโดยธรรมชาติ จนเกิดเป็นลวดลายคล้ายลักษณะของคลื่นน้ำที่กลายเป็นทะเลหิน และแตกลายคล้ายกระดองเต่าไปทั่วบริเวณ มองดูสวยงามอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีหลุมหินขนาดใหญ่ หรือที่เรียกว่า “โบก” ลึกกว่า 1 เมตร กระจายอยู่บริเวณลานหินมากกว่า 10 จุด สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ที่พบเห็น
นายสุชชัพ ชีระชลสุข สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า บริเวณลานหินดังกล่าว ผู้เฒ่าผู้แก่และชาวบ้านในพื้นที่หลายคน เรียกกันว่า “เดิ่นหินดาด” เนื่องจากมีสภาพเป็นลานหินขนาดใหญ่ ซึ่ง “เดิ่น” เป็นภาษาโคราช หมายถึง “ลาน” ขณะที่คำว่า “ดาด” มีความหมายในลักษณะเหมือนร่างกายถูกสิ่งของที่มีความร้อน เมื่อรวมกันก็จะมีความหมายว่า “ลานหินร้อน” ซึ่งชาวบ้านที่ทำมาหากินอยู่บริเวณนี้จะรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะลานหินแห่งนี้ ยามฝนตกจะมีน้ำขังอยู่ในโบก หรือในหลุมหิน พอให้ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์จากน้ำบริเวณนี้ ระหว่างเข้าพื้นที่มาทำการเกษตร เพราะก่อนหน้านี้ชุมชนอยู่ค่อนข้างไกลจากจุดนี้พอสมควร จนมาถึงทุกวันนี้ เริ่มมีผู้คนผ่านมาพบและมองเห็นความสวยงามของลวดลายบนลานหิน คล้ายกับคลื่นน้ำที่กลายเป็นหิน รวมถึงมีหลุมหินขนาดใหญ่กระจายอยู่เกือบ 20 หลุม มองดูน่าอัศจรรย์
ภาคประชาชน อาสาสมัคร และหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ จึงมีแนวคิดร่วมกันผลักดันจุดนี้ให้กลายเป็นจุดท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ อ.ครบุรี เพิ่มอีกหนึ่งจุด จึงมารวมพลังเริ่มต้นทำความสะอาด ปรับภูมิทัศน์ เพิ่มความสวยงามให้กับ “เดิ่นหินดาด” จะได้เข้าถึงสะดวกมากยิ่งขึ้น ส่วนการพัฒนาในขั้นต่อไป จะประสานกับหน่วยงานที่มีความชำนาญ เข้ามาตรวจสอบเอกลักษณ์เฉพาะของพื้นที่ เพื่อให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถให้องค์ความรู้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชมจุดนี้ได้ด้วย เพราะเชื่อว่า ลักษณะของลานหินที่มีความสวยงามและแปลกประหลาดเช่นนี้ น่าจะมีความสำคัญทางด้านธรณีวิทยาบ้างไม่มากก็น้อย
จากการประสานงาน ส่งภาพถ่าย “เดิ่นหินดาด” ให้ รศ.ดร.อานิสงส์ จิตนารินทร์ อาจารย์ประจำวิชาเทคโนโลยีธรณี สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ได้ดูในเบื้องต้น ก็มีคำอธิบายพอสังเขปว่า ลานหินทรายที่พบมีสภาพดังกล่าวนั้น เป็นผลมาจากกระบวนการผุพังอยู่กับที่ (weathering) ที่เกิดกับหินทราย เมื่อหินทรายโผล่บริเวณพื้นผิวโลก เผชิญกับน้ำและอากาศ จะเกิดการผุพังตามธรรมชาติ ลักษณะเช่นนี้พบได้ทั่วไปบนภูเขาหินทรายในภาคอีสาน และลักษณะดังภาพ เกิดจากการผุพังทางเคมี คาดว่าหินทรายบริเวณนี้อาจมีสารเชื่อมประสานเป็นแคลเซียมคาร์บอเนต ที่ทำให้เกิดการละลายน้ำ แต่การผุพังเกิดขึ้นไม่เท่ากัน และอาจเกิดจากชั้นหินทรายมีโครงสร้างชั้นเฉียงระดับ จึงเห็นการผุพังเป็นริ้วๆ
ส่วนหลุมลึกน่าจะเกิดจากการผุพังเชิงกล ซึ่งครั้งหนึ่งอาจมีธารน้ำไหลผ่านบริเวณนี้ เม็ดกรวดอาจหลุดเข้าไปในรอยแตกหรือรอยเว้าของหินบริเวณท้องน้ำ และกระแสน้ำทำให้เม็ดกรวดทรายขัดสีจนกลายเป็นหลุม คล้ายการเกิดโบก
“เดิ่นหินดาด” อยู่ห่างจากตัวอำเภอครบุรี จ.นครราชสีมา ไปทางด้านทิศใต้ ประมาณ 7 กิโลเมตร ตั้งอยู่บริเวณปากทางเข้า วัดเขาถ้ำเต่าพันปี ต.บ้านใหม่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ปัจจุบันยังเป็นที่ดินที่ผู้มีจิตศรัทธามอบให้ทางวัดเป็นผู้ดูแล หากผู้ใดสนใจต้องการเดินทางไปท่องเที่ยว สามารถค้นหาเส้นทางผ่านทางแอปพลิเคชันบนมือถือ พิมพ์คำค้นหา “วัดเขาถ้ำเต่าพันปี” ก็จะพบพิกัดที่ตั้งของ “เดิ่นหินดาด” แห่งนี้. – สำนักข่าวไทย