“พล.ต.อ.วัชรพล” ขอร่วมทำประเทศไทยโปร่งใสไร้โกง

โรงแรม The Okura Prestige กรุงเทพฯ 30 ส.ค.- ประธาน ป.ป.ช. ขอทุกภาคส่วนร่วมมือ ทำประเทศไทยโปร่งใสไร้โกง หวังยกระดับข้อกฎหมาย-มาตรการทัดเทียมมาตรฐาน OECD และเตรียมตัวเข้าเป็นสมาชิกตามนโยบายรัฐบาล


พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานเปิดการประชุมเพื่อเผยแพร่รายงานการศึกษาและข้อเสนอแนะของOECD ในโครงการ Reinforcing Anti-Corruption Framework ภายใต้ OECD-Thailand Country Programme โดย Elodie Beth ผู้จัดการอาวุโสแผนกต่อต้านการทุจริต OECD ร่วมกล่าวเปิดและบรรยายเกี่ยวกับ OECD อนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบน และคณะทำงานว่าด้วยการต่อต้านการให้สินบนแก่เจ้าหน้าที่รัฐต่างประเทศในการทำธุรกรรมทางธุรกิจระหว่างประเทศของ OECD

พลตำรวจเอกวัชรพล กล่าวเปิดการประชุมว่าอยากเห็นประเทศไทยยกระดับกฎหมายและการดำเนินการที่เกี่ยวกับการต่อต้านการทุจริตให้ก้าวหน้าสอดคล้องกับมาตรฐานของ OECD มากขึ้น ซึ่งการจัดงานครั้งนี้เป็นกิจกรรมภายใต้ Country Program ระหว่างรัฐบาลไทยกับ OECD โดยเริ่มตั้งแต่กลางปี 2566 ได้มีการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในการรวบรวมข้อมูล กฎหมายไทยที่เกี่ยวข้องส่งให้ OECD ไปวิเคราะห์ข้อมูลในช่วงปลายปี 2566 ต่อเนื่องด้วยการที่ทุกภาคส่วนต่างๆ ร่วมให้ข้อมูลกับ OECD ในขั้นตอน on site visit เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จนมาวันนี้ OECD ได้จัดทำรายงานกรอบการดำเนินงานต่อต้านการทุจริตของไทยและข้อเสนอแนะเรียบร้อยแล้ว ตนจึงขอขอบคุณหลายภาคส่วนที่ให้ความร่วมมือกับป.ป.ช.เป็นอย่างดี


ประธาน ป.ป.ช. กล่าวอีกว่าในวันนี้เป็นโอกาสอันดีที่จะได้รับฟังข้อมูลที่น่าสนใจ นอกจากจะรับฟังผลการศึกษาและข้อเสนอแนะของโออีซีดีแล้ว ยังเป็นโอกาสที่จะได้ทำความรู้จักกับ OECD และกรอบอนุสัญญาว่าด้วยต่อต้านการให้สินบนของโออีซีดี ซึ่งได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญ OECD และประเทศสมาชิก มาแบ่งปันความรู้ประสบการณ์ จะช่วยให้ภาคส่วนต่างๆ ของไทยเกิดความตระหนักรู้ สามารถเตรียมตัวเพื่อจะยกระดับความสำคัญของไทยให้ใกล้ชิด OECD มากขึ้นตามนโยบายรัฐบาล ที่ต้องการให้ไทยเข้าเป็นสมาชิกของ OECD วันนี้ยังได้รับเกียรติจากตัวแทนสภาพัฒน์ฯ จะมาเล่าว่าไทยได้ดำเนินการและการเตรียมตัวอย่างไรหลังจากนี้ในการเข้าเป็นสมาชิก แม้ว่าโครงการ โครงการ Reinforcing Anti-Corruption Framework จะดำเนินการมาจนใกล้จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว แต่ตนมองว่าเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ให้เราได้ทบทวนกฎหมายและมาตรการต่างๆ ของไทยที่มีอยู่ ในปัจจุบันก็ยังมีอะไรขาดตกบกพร่องพี่จะนำไปสู่การแก้ไขปรับปรุงและบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และให้ทัดเทียมกับมาตรฐานของ OECD ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการสากลที่มีความเข้มข้นอย่างมาก หลังจากนี้ หวังว่าทุกภาคส่วนจะก้าวเดินไปพร้อมกับ ป.ป.ช. ในการทำให้ประเทศไทยโปร่งใสไร้ทุจริตและสินบนเพื่อให้เศรษฐกิจของไทยเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคตต่อไป. 314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง