กรุงเทพฯ 27 มิ.ย. – บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น ได้รับการยกย่องจากองค์กรระดับโลก รับรางวัล “สุดยอดนายจ้างดีเด่นแห่งประเทศไทย ประจำปี 2567” (Kincentric Best Employer Thailand 2024) เป็นบริษัทแรกและบริษัทเดียวในกลุ่มธุรกิจน้ำมันของไทย ด้านบริษัท ลูก “บีซีพีจี” ขายกิจการโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่น คาดมีส่วนต่างลงทุนกว่า 2,300 ล้านบาท
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า รู้สึกยินดีและภูมิใจเป็นอย่างมากที่ได้รับรางวัลนี้ บางจากฯ ได้ตั้งเป้าหมาย Bangchak 100x เป็นองค์กรยั่งยืน 100 ปี รางวัลนี้ เป็นเครื่องยืนยันถึงความสำเร็จในการสร้างความสุข สภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่เพียงอบอุ่น มั่นคง แต่ยังส่งเสริมให้พนักงานเติบโตไปพร้อมกับองค์กร ความผูกพัน ความรู้สึกเป็นเจ้าของและความภาคภูมิใจของพนักงานที่มีต่อบางจากฯ คือพลังขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้เราก้าวข้ามความท้าทายต่าง ๆ จนเป็นองค์กรชั้นนำที่ขยายธุรกิจไปยังหลายประเทศทั่วโลก มีรากฐานทางการเงินที่มั่นคงและความหลากหลายทางธุรกิจที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
รางวัลสุดยอดนายจ้างดีเด่นแห่งประเทศไทยประจำปี 2567 จัดโดยบริษัท คินเซนทริค (ประเทศไทย) จำกัด ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการประเมินและการพัฒนาด้านทรัพยากรมนุษย์ระดับโลกกว่า 50 ปี และประเมิน Best Employers Certification กว่า 20 ปี โดยใช้เครื่องมือประเมินของคินเซนทริคจากการเก็บข้อมูลเชิงลึก และพิจารณาปัจจัยที่ส่งผลต่อความยั่งยืนขององค์กร ได้แก่ ความคิดเห็นของพนักงาน กระบวนการจัดการทรัพยากรบุคคล นโยบายการดำเนินธุรกิจและการบริหารทรัพยากรบุคคล และความสอดคล้องของภาพรวมองค์กร
ด้านนายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้บรรลุเงื่อนไขตามสัญญาซื้อขายหุ้นและเงินลงทุน ในการจำหน่ายโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ทั้งหมดในญี่ปุ่นรวม 9 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 117 เมกะวัตต์ มูลค่ากิจการ 10,377 ล้านบาท กับกลุ่มบริษัท Obton บริษัทไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนรายใหญ่จากเดนมาร์ก โดยบริษัทฯ ได้รับชำระเงินค่าหุ้น ดังกล่าวจากผู้ซื้อเรียบร้อยแล้ว การจำหน่ายกิจการในครั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบราคาขายกับต้นทุนทางบัญชี คาดว่าจะทำให้มีส่วนต่างกว่า 2,300 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในไตรมาสที่ 2 ทันที เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การบริหารจัดการสินทรัพย์ของบริษัทฯ โดยการ Recycle เงินลงทุน เพื่อนำเงินลงทุนและกำไร ไปพัฒนาโครงการใหม่ๆ ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ตามแผนการเติบโตที่บริษัทฯ ได้วางไว้. -511-สำนักข่าวไทย