อุบลราชธานี 24 ส.ค.- ด่านตรวจอุบลฯ เกาะติดการเดินทางเข้า กทม.เช้านี้ยังปกติ ทั้งรถบัสโดยสารและรถเช่าเหมาคัน ยังไม่พบการรวมกลุ่มคนเข้าไปให้กำลังใจ “ยิ่งลักษณ์” ที่ศาลตัดสินคดีรับจำนำข้าวพรุ่งนี้ มีเพียงอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยบางคนต่างคนต่างเดินทาง ส่วนระยองตั้งจุดสกัดร่วมเช่นกันสายบ้านบึง-แกลง
บรรยากาศการตั้งด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ตำรวจ ทหาร และฝ่ายครองในจังหวัดอุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์เดินทางของกลุ่มมวลชนเข้า กทม. เพื่อจะไปให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งศาลจะตัดสินในคดีรับจำนำข้าววันที่ 25 ส.ค. โดยเจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดตรวจตามถนนสายหลักเชื่อมระหว่างอำเภอมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพมหานคร 3 เส้นทาง คือ ตามเส้นทางหลวงหมายเลข 24 โชคชัยเดช-เดชอุดม ทางหลวงหมายเลข 23 อุบลราชธานี-บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น และทางหลวงหมายเลข 227 อุบลราชธานี-นครราชสีมา
ส่วนการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เน้นรถโดยสาร รถเช่าเหมาคัน ทั้งรถบัสและรถตู้ รวมทั้งการเรียกหยุดสอบถามจุดหมายปลายทางที่จะเดินทางไป ซึ่งช่วงเช้านี้ (24 ส.ค.) พบรถตู้โดยสารสาธารณะแล่นระหว่างจังหวัด รถบัสโดยสารประจำทางเชื่อมระหว่างภาค และรถบัสเช่าเหมาคัน โดยเป็นรถของนักเรียนชั้นมัธยมจะเดินทางไปทัศนศึกษาของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ยังไม่พบรถลักษณะขนมวลชนเข้าไปสนับสนุนให้กำลังใจ
ขณะเดียวกันจากการสอบถามไปยังเครือข่าย นปช.ในพื้นที่อุบลราชธานีพบว่าไม่มีการเคลื่อนไหวนัดกันเดินทางเข้า กทม. ส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้เกิดความสุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดอำนาจศาล รวมทั้งแกนนำสำคัญของจังหวัดอุบลราชธานีถูกตัดสินจำคุกอยู่ในเรือนจำกรณีร่วมกันเผาศาลากลางจังหวัด เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2553 จึงไม่ต้องการเคลื่อนไหวในช่วงนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนของอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย มีบางส่วนแยกย้ายกันเดินทางไปให้กำลังกับอดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยต่างคนต่างเดินทาง
ส่วน จ.ระยอง นายวิทยา ชพานนท์ นายอำเภอแกลง นายบัญญัติ เศียรเขียว ปลัดฝ่ายความมั่นคง และ พ.ต.ท.สาธิต สุวรรณโชติ สวป.สภ.แกลง พร้อมชุดเจ้าหน้าที่และกำนันผู้ใหญ่บ้าน ตั้งจุดตรวจ/จุดสกัดร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบนถนนสาย 344 บ้านบึง-แกลง ม.8 ต.กระแสบน อ.แกลง นอกจากป้องปรามยาเสพติดและการก่ออาชญากรรมแล้ว แต่ช่วงนี้มีกระแสข่าวจะมีการเดินทางเข้า กทม. เพื่อไปให้กำลังใจอดีตนายกรัฐมนตรีที่ศาลจะตัดสินคดีรับจำนำข้าววันพรุ่งนี้ (25 ส.ค.) ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ได้ห้ามหรือสกัดการเดินทาง แต่เพื่อความปลอดภัยจึงต้องวางมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยและป้องกันการพกพาสิ่งผิดกฎหมาย รวมทั้งอาวุธต่าง ๆ.-สำนักข่าวไทย