ทำเนียบรัฐบาล 23 พ.ค.-“รัดเกล้า” เผย รัฐเร่งสร้างความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมต่อคนรุ่นใหม่ทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค หลังที่ ครม. เห็นชอบร่างแถลงการณ์เวียงจันทน์ฯ เพื่อพัฒนาความสามารถในการปรับตัวรับกับสภาพภูมิอากาศของเด็กปฐมวัยในอาเซียน
นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกระทรวงศึกษาธิการ เดินหน้าเสริมสร้าง และส่งเสริมการเข้าถึงการดูแล และการจัดการศึกษาเด็กปฐมวัยที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมแก่เด็กทุกคน ทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการและกีฬาแห่ง สปป. ลาว ได้กำหนดจัดประชุมระดับรัฐมนตรีว่าด้วยการส่งเสริมการเข้าถึงการพัฒนาและการดูแลเด็กปฐมวัยอย่างเท่าเทียมในภูมิภาคอาเซียน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ซึ่งจะได้มีการรับรองร่างแถลงการณ์เวียงจันทน์ว่าด้วยความเสมอภาค การเข้าถึงและสิ่งแวดล้อม : การพัฒนาความสามารถในการปรับตัวรับกับสภาพภูมิอากาศของเด็กปฐมวัยในอาเซียน ที่ที่ประชุม ครม. (14 พฤษภาคม 2567) ได้มีมติเห็นชอบแล้ว ทั้งนี้ เมื่อร่างแถลงการณ์ฯ ได้รับการรับรองจากที่ประชุมดังกล่าวแล้ว จะมีการเสนอให้ที่ประชุมคณะมนตรีประชาสังคมและวัฒนธรรมอาเซียนทราบในเดือนกันยายน 2567 และจะเสนอต่อที่ประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 44-45 ทราบต่อไป
โดยร่างแถลงการณ์ฯ นี้ ออกเพื่อสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ร่วมของอาเซียนและความมุ่งมั่นที่จะผลักดันการดูแลและการจัดการศึกษาแก่เด็กปฐมวัยและบูรณาการการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศเข้าด้วยกัน ซึ่งมีประเด็นที่สำคัญเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงการดูแลและการจัดการศึกษาเด็กปฐมวัยที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมแก่เด็กทุกคนในอาเซียน เช่น การเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อการวางแผนและการปฏิบัติด้านการดูแลและการศึกษาแก่เด็กปฐมวัย การส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในด้านการดูแลและจัดการศึกษาให้แก่เด็กปฐมวัย การเพิ่มการจัดสรรงบประมาณด้านการดูแลและการศึกษาเด็กปฐมวัย
ร่างแถลงการณ์ฯ มีประเด็นสำคัญ อาทิ 1) วิสัยทัศน์ร่วมและความมุ่งมั่น 2) การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมและภูมิอากาศ 3) การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) 4) การดูแลและการจัดการศึกษาแก่เด็กปฐมวัย 5) การดำเนินงานภายใต้ปฏิญญาผู้นำอาเซียนว่าด้วยการเป็นภูมิภาคที่มีภูมิคุ้มกันอย่างยั่งยืน ค.ศ. 2023 6) การสนับสนุนด้านนโยบายที่ส่งเสริมการปรับตัวเพื่อรองรับสภาพภูมิอากาศ 7) การบูรณาการความรู้และการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับภูมิอากาศในหลักสูตรการดูแลและการจัดการศึกษาแก่เด็กปฐมวัย 8) บทบาทของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง 9) การจัดทำแผนกลยุทธ์ปฏิญญาอาเซียนว่าด้วยการดูแลและจัดการศึกษาแก่เด็กปฐมวัย
“การดูแลและการจัดการศึกษาและเด็กปฐมวัย และการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศถือเป็นประเด็นที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และเป็นส่วนหนึ่งของการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ซึ่งการบูรณาการความรู้และการดำเนินการทั้งสองอย่างนี้เข้าด้วยกันจะช่วยสร้างความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อมให้แก่คนรุ่นใหม่ และสร้างภูมิคุ้มกันและการปรับตัวต่อสภาพภูมิอากาศของเด็กได้” รองโฆษกฯ รัดเกล้า กล่าว.-312.-สำนักข่าวไทย