ทำเนียบ 7 พ.ค.-“พิชัย” เข้าทำเนียบสักการะพระพรหม-ศาลตายาย เอาฤกษ์เอาชัยเข้าทำงานวันแรก ก่อนลุยงาน ก.คลัง เตรียมแบ่งงาน รมช.บ่ายนี้ เตรียมคุยผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล เข้าสักการะพระพรหมบนตึกไทยคู่ฟ้า และไหว้ศาลตายาย เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยก่อนเริ่มทำงาน ท่ามกลางบรรยากาศฟ้าครึ้ม
นายพิชัย ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ถือว่าเข้าทำงานเป็นวันแรกอย่างเป็นทางการ ทั้งในทำเนียบรัฐบาล และกระทรวงการคลัง และจะมีการหารือกันภายใน เพื่อแบ่งงานกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่ามีภารกิจเร่งด่วน จะต้องทำอย่างไร โดยใช้ภาระหน้าที่ และความรับผิดชอบที่มีอยู่ สางปัญหา และจัดการปัญหาให้ทุกอย่างดีขึ้น เพื่อประเทศชาติ โดยยืนยันว่าจะทำอย่างสุดความสามารถ
นายพิชัย ยอมรับว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะถือเป็นงานประจำ ซึ่งจะมีการพูดคุยกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง เพื่อรายงานความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงบ่ายวันนี้(7 พ.ค.) จะมีการหารือกัน ซึ่งทุกอย่างมีข้อมูลอยู่แล้ว
ส่วนการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจถือเป็นงานใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้านั้น นายพิชัย กล่าวว่า ทุกคนทราบปัญหาที่เกิดขึ้น แต่วิธีคิดอาจจะแตกต่างกัน และมองหาและวิธีการแก้ไขที่แตกต่างกัน ดังนั้นจำเป็นจะต้องหาข้อยุติ และเมื่อตกผลึกแล้ว ก็ต้องพยามทำให้ทุกคนเข้าใจร่วมกันให้มากที่สุด แล้วนำมาซึ่งแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด
ในขณะที่ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.ในตอนนี้ นายพิชัย มองว่าเป็นเรื่องปกติ ในฐานะที่ตนเองมีหน้าที่ และความรับผิดชอบ ที่จะต้องทำงานร่วมกับ ธปท. เพื่อที่จะผลักดัน ให้เครื่องจักร 2 เครื่อง ทางนโยบายการคลังและการเงิน จะต้องสอดคล้อง และเดินไปในทิศทางเดียวกัน แต่ก่อนจะเดินทางร่วมกันได้จะต้องมีการตกผลึก และทำความเข้าใจก่อนว่า ปัญหาที่แท้จริงคืออะไร
“ถือเป็นหน้าที่ของตนที่จะต้องเข้าไปพูดคุยกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าฯ ธปท. ซึ่งเชื่อมั่นว่าผู้ว่าฯ ธปท. ก็ดูงานด้วยข้อเท็จจริง และมีเหตุผล โดยในอดีต ตนเคยทำงานสัมผัสร่วมกันบ้าง ดังนั้นเชื่อว่าจะพูดคุยกันได้ และมีแนวทางที่ใกล้เคียงกัน ด้วยเหตุและผล” นายพิชัย กล่าว
ส่วนกระแสข่าวที่จะมีการแก้ไขกฎหมายลดความเป็นอิสระของ ธปท. นายพิชัย กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมาดูกันอีกครั้ง ว่าใช่ปัญหาหรือไม่ แต่ในขณะเดียวกันก็มีกระแสข่าวต่อต้านว่า ธปท. จะต้องมีความเป็นอิสระ ซึ่งก็เป็นความเห็นต่าง แต่หากมีการพูดคุยกันจนตกผลึกแล้ว เชื่อว่าความเห็นต่างจะค่อย ๆ แคบลง และจะนำมาซึ่งข้อสรุปที่ดีสำหรับตนเองแล้วมองว่าเรื่องนี้ ธปท. มีอิสระอยู่แล้ว ในเรื่องนโยบายการเงิน เพียงแต่ว่าความอิสระนั้นมีมาโดยตลอด สามารถที่จะกำหนดและตัดสินด้วยวิจารณญาณคนที่เข้ามาร่วมตัดสิน แต่การตัดสินนโยบายทั้งหมดนั้น จะเป็นแนวทางที่จะต้องสนับสนุนนโยบายภาครัฐ
ส่วนความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจะหมดไปหรือไม่ นายพิชัย เห็นว่า เรื่องนี้ไม่ขอตอบ ตนขอหารือกับ ผู้ว่าฯ ธปท.ก่อน ส่วนจะมีโครงการใหม่ ๆ มาช่วยบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนในช่วงนี้หรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า นโยบายหลายอย่างต้องทำควบคู่กันไป โดยมีประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ร่วมมือเพื่อที่จะแก้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า.-314.-สำนักข่าวไทย