ประจวบคีรีขันธ์ 6 ส.ค.- อ่าวไทยอุดมสมบูรณ์ เรือนำเที่ยวพบฉลามวาฬไซซ์ยักษ์แหวกว่ายห่างชายฝั่งเกาะทะลุ 8 กม. ด้าน ผอ.ส่วนอนุรักษ์ฯ แนะนักท่องเที่ยวไม่เข้าใกล้เพื่อเก็บภาพ แม้เป็นสัตว์ทะเลไม่ก้าวร้าว แต่ไม่ควรรบกวน ขณะที่ ทช.เสนอฉลามวาฬเป็นสัตว์สงวนชนิดใหม่ เพื่ออนุรักษ์
นายวรรณ ชาตรี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า เมื่อไม่นานมานี้ได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการเรือนำเที่ยว “กิ๊กไดรฟ์วิ่ง” ว่าพบฉลามวาฬสัตว์ทะเลหายากขนาดใหญ่ความยาวกว่า 6 เมตร เข้ามาหากินบริเวณด้านทิศเหนือของเกาะทะลุ หมู่ 3 ต.ทรายทอง อ.บางสะพานน้อย ห่างจากชายฝั่งประมาณ 8 กิโลเมตร อาจเป็นไปได้ว่าเป็นฉลามวาฬตัวเดียวกับที่นักท่องเที่ยวพบเห็นมาหลายครั้งตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่า ฉลามวาฬหากินอยู่ในพื้นที่รอยต่อชายฝั่งทะเล จ.ประจวบคีรีขันธ์ และบริเวณหมู่เกาะของ อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งมีดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศวิทยาทางทะเล จึงกำชับให้ผู้ประกอบการนำนักท่องเที่ยวไปดำน้ำระมัดระวัง รวมทั้งจำกัดจำนวนนักดำน้ำขณะพบฉลามวาฬ และให้ความรู้ทางวิชาการแก่นักท่องเที่ยว พร้อมแนวทางการปฏิบัติที่ถูกต้อง คือ ไม่ควรไปว่ายน้ำเล่นในระยะใกล้ หรือสัมผัสกับฉลามวาฬเพื่อบันทึกภาพ เพราะเป็นการรบกวนความเป็นอยู่ในธรรมชาติ แม้ฉลามวาฬจะเป็นสัตว์ทะเลที่ไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าว
สำหรับฉลามวาฬถูกจัดให้มีสถานภาพใกล้สูญพันธุ์ ขณะนี้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ได้เสนอให้ฉลามวาฬเป็นสัตว์สงวนชนิดใหม่ ลำดับที่ 18 ของไทย ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 โดยผ่านการพิจารณาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว เพื่อยกระดับความสำคัญของฉลามวาฬและมีมาตรการต่างๆ เพื่อดูแลและช่วยเหลือฉลามวาฬมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย
ขอบคุณภาพ facebook “Sontaya Wimontong”