fbpx

รัฐบาลจัดงาน “ประชารัฐร่วมใจ ใต้ร่มพระบารมี”

ทำเนียบฯ 4 ส.ค.-รัฐบาลจัดงาน “ประชารัฐร่วมใจ ใต้ร่มพระบารมี” เปิดช่องทางบริจาคเงินช่วยเหลือน้ำท่วมภาคเหนือ-อีสาน  โดยภาครัฐ เอกชนและประชาชนร่วมบริจาค 


พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวในงาน “ประชารัฐร่วมใจ ใต้ร่มพระบารมี” ว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นผลกระทบของพายุดีเปรสชั่น “เซินกา” ส่งผลให้ได้รับความเดือดร้อน ทั้งในด้านที่อยู่อาศัย การดำรงชีวิต และการประกอบอาชีพ รัฐบาลและทุกภาคส่วนไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยพร้อมระดมความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน เพื่อช่วยแก้ไขปัญหา และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างรวดเร็วที่สุด


วันนี้รัฐบาลได้จัดงาน “ประชารัฐร่วมใจ ใต้ร่มพระบารมี” ขึ้น เพื่อเชิญชวนหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ร่วมกันบริจาคเงิน เพื่อนำไปช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้แก่ประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยทุกท่านสามารถร่วมบริจาคเงินเข้า “กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรี” บัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล เลขที่บัญชี 067-006895-0 เพื่อให้ทุกท่านได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการส่งต่อความปรารถนาดีไปยังประชาชนที่เดือดร้อนในพื้นที่ประสบภัยต่อไป


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับเงินบริจาคดังกล่าว คณะกรรมการ กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี จะประสานงานกับ จังหวัดต่าง ๆ ให้เสนอขอรับการสนับสนุน แก่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน ตามหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ทั้งในเรื่องค่าวัสดุในการก่อสร้าง ซ่อมแซมบ้านเรือนที่เสียหาย ค่าเครื่องใช้อุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อครอบครัว รวมทั้งค่าจัดการศพในกรณีมีผู้เสียชีวิต เป็นต้น ทั้งนี้ผู้บริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยสามารถนำหลักฐานการบริจาคไปใช้แสดงการขอลดหย่อนภาษีได้ต่อไป 

ทั้งนี้ ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พลังน้ำใจ และความร่วมมือร่วมใจของประชาชนคนไทย ตลอดจนความช่วยเหลือของหน่วยงานทุกภาคส่วน จะเป็นกำลังใจสำคัญให้ประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัย สามารถผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้ และกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างปกติสุขอีกครั้งหนึ่ง และขอฝากให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานและประชาชนทุกคน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

คนร้ายฆ่าสาวโบลท์ เครียด ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ

เครียด! “ไอ้แม็ก” มือฆ่าชิงทรัพย์สาวโบลท์ ใช้หัวโขกลูกกรง สน.มีนบุรี จนตำรวจต้องเข้าระงับเหตุ ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ ล่าสุดคุมตัวไปฝากขังแล้ว

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก คลื่นลมแรง

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนคลื่นลมแรง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้