กรุงเทพฯ 2 ส.ค. – กรมชลฯ เร่งผลักดันน้ำท่วม จ.
สกลนครลงลำน้ำก่ำ พร้อมเร่งระบายลงสู่แม่น้ำโขง จ.นครพนม คาด 6 วันเข้าสู่ภาวะปกติ
นายสมเกียรติ
ประจำวงษ์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมว่า ขณะนี้กรมชลประทานได้เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่
เพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด ระดมกำลังคนในพื้นที่พร้อมวางแผนเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำ
เครื่องผลักดันน้ำ
เพื่อเร่งระบายน้ำที่ไหลมาจากจังหวัดสกลนครลงสู่แม่น้ำโขงโดยเร็ว โดยปัจจุบันได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำหลายพื้นที่
ได้แก่ บริเวณท้ายประตูระบายน้ำสุรัสวดี 5 เครื่อง บริเวณสะพานบ้านด่านม่วงคำ 4
เครื่อง บริเวณท้ายประตูระบายน้ำบ้านหนองบึง 2 เครื่อง
และบริเวณท้ายประตูระบายน้ำธรณิศนฤมิต อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม
ซึ่งเป็นประตูสุดท้ายที่จะระบายน้ำลงสู่แม่น้ำโขง อีก 8 เครื่องเสร็จเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างติดตั้งเครื่องสูบน้ำในพื้นที่ที่มีศักยภาพอีก 4 เครื่อง
เมื่อติดตั้งเสร็จจะทำงานเสริมประสิทธิภาพร่วมกับเครื่องผลักดันน้ำที่ติดตั้งไว้เดิม
โดยสามารถระบายออกสู่แม่น้ำโขงผ่านประตูระบายน้ำธรณิศนฤมิตได้วันละ 52.24
ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6 วัน
สถานการณ์น้ำจะกลับสู่สภาวะปกติ
รองอธิบดีกรมชลประทาน
กล่าวต่อว่า ขณะนี้ระดับน้ำหนองหานมีปริมาณสูงกว่าระดับเก็บกักประมาณ 1.29 เมตร
(คิดเป็นปริมาณน้ำประมาณ 110 ล้านลูกบาศก์เมตร) โดยปริมาณน้ำจากหนองหาน
จังหวัดสกลนคร จะไหลมาลงลำน้ำก่ำ ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขง คิดเป็นระยะทางทั้งหมด 123
กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 28 ชั่วโมง
จากการเร่งดำเนินการของกรมชลประทานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ตามแผนที่วางไว้จะทำให้มีบางพื้นที่สถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติประมาณวันที่
5 สิงหาคม 2560 ส่วนพื้นที่ลุ่มต่ำในลุ่มน้ำก่ำตอนล่างบริเวณอำเภอเมือง
อำเภอโพนนาแก้ว และอำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร อำเภอนาแก อำเภอวังยาง
อำเภอเรณูนคร อำเภอธาตุพนม และอำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม
คาดว่ามีปริมาณน้ำสะสมประมาณ 100 ล้าน ลบ.ม.
สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในวันที่ 7 สิงหาคม 2560.-สำนักข่าวไทย