กรุงเทพฯ 31 ก.ค. – กรมชลประทานเตือนพื้นที่ท้ายเขื่อนลำปาวน้ำท่วมขังจากการระบายน้ำเพิ่ม เฝ้าระวังพิเศษ อ.เขื่องใน-ตระการพืชผล-เดชอุดม คาดพรุ่งนี้น้ำล้นตลิ่ง
นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ 2 ซึ่งเขื่อนลำปาวเพิ่มการระบายน้ำตามมติของคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ หรือ JMC จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน โดยระบายเพิ่มจากวันละ 15 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 20 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะมีการประชุมเพื่อหารือการเพิ่มหรือลดปริมาณการระบายน้ำทุกวัน การระบายน้ำครั้งนี้จะส่งผลให้พื้นที่ด้านท้ายเขื่อนลำปาวอาจจะมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง ยางตลาด กมลาไสย ฆ้องชัย และร่องคำ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมให้การช่วยเหลือประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำ
ทั้งนี้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวลงพื้นที่ทำความเข้าใจและชี้แจงประชาชนให้ทราบถึงสถานการณ์และผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นและสั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชนน้อยที่สุด นอกจากนี้ กรมชลประทานยังทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ดและยโสธร ซึ่งจะเป็นพื้นที่รับน้ำต่อไป เพื่อแจ้งสถานการณ์และให้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ทราบแล้ว
ขณะที่พื้นที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ ลำเซบาย อ.เขื่องใน ลำเซบก อ. ตระการพืชผล ลำโดมใหญ่ อ.เดชอุดม ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของลำน้ำมูลที่มีระดับน้ำสูงขึ้น โดยวันพรุ่งนี้จะเริ่่มมีน้ำล้นตลิ่ง
สำหรับจังหวัดร้อยเอ็ดฝนตกหนัก ทำให้ระดับน้ำในลำน้ำยังซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำชีเพิ่มขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำที่อยู่ติดริมลำน้ำและกัดเซาะพนังขาด มีพื้นที่ถูกน้ำท่วม 15,000 ไร่ในอำเภอเสลภูมิ 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลวังหลวง ตำบลนาแซง และตำบลศรีวิลัย แนวโน้มพื้นที่ถูกน้ำท่วมเพิ่มขึ้น โดยโครงการชลประทานร้อยเอ็ดได้สนับสนุนรถขุดตักหน้าขุดหลัง 1 คัน รถบรรทุก 1 คัน กระสอบทรายอีก 1,000 ใบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชลประทาน 20 คน เพื่อทำแนวป้องกันน้ำท่วมริมลำน้ำยังแล้ว
ส่วนจังหวัดสกลนครยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณตลาด ต. การค้า ในเขตเทศบาลนครสกลนคร ระดับน้ำสูงประมาณ 50 ซม. กรมชลประทานได้นำเครื่องสูบน้ำ 10 เครื่องไปติดตั้งเพื่อสูบน้ำออกจากถนนและชุมชนต่าง ๆ ในพื้นที่ลุ่มต่ำออกเพื่อระบายลงหนองหานที่จะไปเชื่อมกับลำน้ำก่ำและออกสู่แม่น้ำโขงที่จังหวัดนครพนม หากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่มคาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ปกติภายใน 1 สัปดาห์.-สำนักข่าวไทย