ปัตตานี 26 ธ.ค.- อธิบดีกรมชลประทานสั่งเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำจังหวัดปัตตานี โดยฝนที่ตกหนักต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานีและแม่น้ำสายบุรีมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น กำชับสำนักงานชลประทานที่ 17 เฝ้าระวังจุดเสี่ยง พร้อมระดมเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำที่ท่วมขังใน 7 อำเภอเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า สั่งการให้สำนักงานชลประทานที่ 17 ติดตามสถานการณ์น้ำและสถานการณ์ฝนในพื้นที่จังหวัดปัตตานีอย่างใกล้ชิด จากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยวัดปริมาณฝนสะสม 3 วันสูงสุดได้ 111.40 มิลลิเมตร ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำและในคลองเพิ่มสูงขึ้นและไหลเข้าท่วมพื้นที่ 7 อำเภอได้แก่ อำเภอเมืองปัตตานี หนองจิก ยะรัง ทุ่งยางแดง กะพ้อ ไม้แก่น และสายบุรี
จากการติดตามสถานการณ์น้ำล่าสุดมีดังนี้
– ที่สถานีวัดน้ำ X.275 แม่น้ำปัตตานี บริเวณบ้านบริดอ อำเภอเมืองปัตตานี จ.ปัตตานี วัดระดับน้ำได้ 2.68 เมตร สูงกว่าตลิ่ง 68 เซนติเมตร แนวโน้มเพิ่มขึ้น
– ที่สถานีวัดน้ำ X.272 แม่น้ำสายบุรี บริเวณบ้านลาคอ อำเภอสายบุรี วัดระดับน้ำได้ 4.74 เมตร สูงกว่าตลิ่ง 1.14 เมตร แนวโน้มเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ยังสั่งการให้โครงการชลประทานปัตตานีและโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปัตตานี ได้เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ 6 เครื่อง บริเวณจุดเสี่ยงทั้ง 4 แห่งและเดินเครื่องเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในลำน้ำอย่างใกล้ชิด
นายชูชาติกล่าวย้ำว่า กรมชลประทานจะใช้ระบบชลประทานในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อบรรเทาอุทกภัยอย่างเต็มศักยภาพ ซึ่งได้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำหลากไว้ก่อนหน้านี้ด้วยแล้ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนให้มากที่สุด.-512-สำนักข่าวไทย