พรรคประชาธิปัตย์ 17 พ.ย.-“ชัยชนะ” มั่นใจ 9 ธ.ค. ประชาธิปัตย์ได้ “หัวหน้าพรรค” แน่นอน
นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงแนวโน้มที่จะมีการเปิดประชุมวิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ ว่า การประชุมวิสามัญที่จะเกิดขึ้นภายในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ ได้กำหนดเพิ่มองค์ประชุมใน (19) ของข้อบังคับพรรค โดยให้สมาชิกพรรคแต่ละภาค 30 คน แสดงความจำนงที่จะเป็นองค์ประชุม หากเกินกว่านั้น ก็จะจับสลากกัน เพื่อมาเติมองค์ประชุมที่ขาดไป สำหรับในส่วนผู้ที่จะลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เท่าที่ทราบตอนนี้ยังเป็นเพียงข่าวว่าใครจะลงบ้าง แต่คนที่แน่ชัด และยืนยันกับสื่อมวลชนไปในวันประชุมกรรมการบริหารพรรค ก็คือ นายนราพัฒน์ แก้วทอง ส่วนท่านอื่นๆ ที่ปรากฏเป็นข่าว ก็คิดว่าต้องให้เจ้าตัวเป็นผู้ยืนยันก่อนว่าจะลงชิงจริงหรือไม่
“วันนี้ต้องรอให้ชัดเจนว่า คุณนราพัฒน์ ยังยืนยันลงหัวหน้าพรรคหรือเปล่า ถ้ามีการพูดคุยชัดเจน เราก็มานั่งสรุปกันว่าจะเดินหน้าอย่างไรต่อไป สำหรับท่านเฉลิมชัย ศรีอ่อน มีบุคลิกรักษาคำพูด คำไหนคำนั้นอยู่แล้ว ท่านประกาศเลิกเล่นการเมือง ไม่รับตำแหน่งทางการเมือง ผมคิดว่าการที่ท่านคิดกลับมาเป็นหัวหน้าพรรค อันนี้เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะท่านก็พูดในที่ประชุมวันนั้นชัดเจนว่า ท่านเลิกเล่นการเมือง แต่จะช่วยดูแลพรรค ช่วยสนับสนุนพรรค เนื่องจากพรรคได้ให้กำเนิดทางการเมือง ให้โอกาสท่านเป็นรัฐมนตรี พรรคให้ประสบการณ์ท่าน และสอนอะไรหลายอย่าง ผมคิดว่าประเด็นที่คิดว่าท่านจะมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคนั้น ตัดไปได้เลย” นายชัยชนะ กล่าว
นายชัยชนะ กล่าวว่า ตนอยากให้เข้าใจว่า พรรคประชาธิปัตย์เราเป็นสถาบันทางการเมือง เราอยู่มา 77 ปี ก้าวสู่ปีที่ 78 วันนี้เราอยู่ในยุคเปลี่ยนผ่าน ซึ่งการเปลี่ยนผ่านนั้นต้องเปลี่ยนผ่าน 3 ชั่วอายุคน 1. คนรุ่นเก่า 2. คนรุ่นกลาง 3. คนรุ่นใหม่ ดังนั้น การที่จะให้คน 3 ยุค เข้าใจกันในทีเดียวก็คงไม่ใช่ และต้องยอมรับว่า ทุกคนล้วนมีเป้าหมายเดียวกัน คือ ต้องการฟื้นพรรคให้กลับมาเป็นพรรคหลัก เพียงแต่วิธีคิด กระบวนการ แนวทางการทำงาน อาจจะต่างกันอยู่บ้าง สิ่งที่ดีที่สุดคือการพูดคุย ถ้าได้มีการพูดคุยกัน ทุกอย่างก็ดีขึ้น
“ท้ายที่สุดแล้ว ต้องเปิดอกมาคุยกันว่า ในการเปลี่ยนผ่านนี้ ไม่ใช่เรื่องความขัดแย้ง เป็นการเปลี่ยนผ่านของสถานการณ์ เปลี่ยนผ่านของเวลา เปลี่ยนผ่านของช่วงอายุคน เพราะฉะนั้น สิ่งหนึ่งที่ต้องคุยกันก็คือ สิ่งไหนที่พรรคทำและดีอยู่แล้ว ก็ต้องรับไปทำต่อ สิ่งไหนที่ต้องปรับให้เข้ายุค ทันสมัย ก็ต้องทำ” นายชัยชนะ กล่าว
นายชัยชนะ กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองวันนี้ กระแสของคนรุ่นใหม่มีเยอะขึ้น ซึ่งพรรคเรามีหลักและอุดมการณ์อยู่แล้ว ก็ต้องรับไปทำต่อ สิ่งไหนที่ต้องปรับให้เข้ายุคสมัยก็ต้องทำต่อไป การเมืองไทยในวันนี้แข่งขันกันทางความคิด ถ้าพรรคไหนสามารถนำเสนอความคิด แล้วทำให้ประชาชนเชื่อมั่น ตนคิดว่าพรรคนั้นก็จะเป็นทางเลือกให้ได้กลับมา
นอกจากนี้ยังแสดงความมั่นใจว่า จะมีการคุยกันได้ก่อนถึงวันประชุม โดยระบุว่า ในเมื่อทุกคนยืนยันออกจากปากว่ารักพรรคประชาธิปัตย์ ทุกคนยึดมั่นว่าจะช่วยพรรคประชาธิปัตย์ ก็ต้องพูดคุยกันได้ ถ้าความรักนั้นออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ ไม่ใช่ความรักที่ออกมาแค่ลมปาก ก็คิดว่าต้องคุยกันได้อยู่แล้ว
“ผมมั่นใจว่า การประชุมวิสามัญครั้งนี้จะได้หัวหน้าพรรค เพราะองค์ประชุมก็มีการปรับปรุงแล้ว มั่นใจว่าภายในวันที่ 9 ธ.ค.นี้ ได้หัวหน้าพรรคแน่นอน แต่จะเป็นใครนั้น คงต้องรอสัปดาห์สุดท้ายว่าใครจะประกาศชิงหัวหน้าพรรค ณ วันนี้รายชื่อยังไม่ชัดเจน และสถานการณ์ยังเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา” นายชัยชนะ กล่าว.-สำนักข่าวไทย