กรุงเทพฯ 31 ต.ค. – ธปท. เผยเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3/66 ขยายตัว จากบริโภคภาคเอกชน-นักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นประเมิน ต.ค. ยังขยายตัวต่อเนื่อง ตามอุปสงค์ในประเทศ-ท่องเที่ยว จับตามาตรการลดค่าครองชีพ และความขัดแย้งในอิสราเอล
นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจและการเงินเดือน ก.ย.2566 อยู่ในทิศทางฟื้นตัว โดยกิจกรรมในภาคบริการฟื้นตัวต่อเนื่องตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะเกาหลีใต้ และอินเดีย ที่มีวันหยุดต่อเนื่องหลายวัน ส่วนนักท่องเที่ยวตะวันออกกลาง และยุโรป กลับมาขยายตัวหลังจากที่ชะลอไปในช่วงก่อนหน้า และนักท่องเที่ยวจีน ที่ส่วนหนึ่งได้รับผลดีจากมาตรการยกเว้นการยื่นวีซ่าในช่วงปลายเดือน สำหรับรายรับภาคการท่องเที่ยวยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวและอัตราการเข้าพักแรมที่เพิ่มขึ้น
ประกอบกับมูลค่าการส่งออกสินค้าไม่รวมทองคำปรับเพิ่มขึ้นในหลายหมวดสินค้า อาทิ การส่งออกเครื่องประดับไปฮ่องกงที่ได้รับผลดีในช่วงที่มีงานจัดแสดงสินค้า ขณะที่สินค้าเกษตร ตามการส่งออกข้าวขาวไปแอฟริกาใต้และเบนินเป็นสำคัญ และ สินค้าเกษตรแปรรูป ตามการส่งออกน้ำมันปาล์มไปอินเดีย และแป้งมันสำปะหลังไปจีน อย่างไรก็ตามการส่งออกบางสินค้าปรับลดลง อาทิ ยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า
ด้านการผลิตภาคอุตสาหกรรมทรงตัว โดยการผลิตหมวดอาหารและเครื่องดื่มปรับดีขึ้นตามการผลิตน้ำตาลจากราคาน้ำตาลที่ปรับสูงขึ้น ด้านหมวดฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์เพิ่มขึ้นตามรอบการผลิต รวมถึงหมวดยางและพลาสติกที่เพิ่มตามการผลิตยางแท่ง และยางรัดของ อย่างไรก็ตาม การผลิตหมวดยานยนต์ลดลง จากการผลิตรถกระบะที่ได้เร่งผลิตไปในช่วงก่อนหน้า ประกอบกับสถาบันการเงินยังคงเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ รวมถึงหมวดปิโตรเลียมลดลงจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นชั่วคราว
ขณะที่อุปสงค์ในประเทศทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนชะลอลงหลังจากเร่งไปในช่วงก่อนหน้า แต่การใช้จ่ายในหมวดบริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะหมวดโรงแรมและภัตตาคาร สอดคล้องกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐหดตัวจากทั้งรายจ่ายของรัฐบาลกลางและการลงทุนรัฐวิสาหกิจ
เสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากทุกหมวดหลัก โดยหมวดอาหารสดลดลงจากราคาผัก ผลไม้และเนื้อสัตว์ที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น ขณะที่หมวดพลังงานลดลงจากมาตรการลดค่าไฟฟ้าและราคาน้ำมันดีเซลของภาครัฐ ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานลดลงเล็กน้อยจากราคาอาหารสำเร็จรูปเป็นสำคัญ ด้านตลาดแรงงานปรับดีขึ้นต่อเนื่อง สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล ด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบกับดอลลาร์ สรอ. เฉลี่ยอ่อนค่าลงเนื่องจากตลาดปรับเพิ่มการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ มีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน ขณะที่ค่าเงินหยวนอ่อนค่าจากเศรษฐกิจจีนที่ยังคงเปราะบาง และนักลงทุนรอความชัดเจนของนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
สำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2566 เศรษฐกิจไทยขยายตัวจากไตรมาสก่อนตามการบริโภคภาคเอกชนและภาคบริการที่ปรับดีขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ ด้านมูลค่าการส่งออกสินค้าไม่รวมทองคำเพิ่มขึ้นจากการส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วน และปิโตรเลียมเป็นสำคัญ สอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ปรับเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามการลงทุนภาคเอกชนปรับลดลงจากหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์หลังจากได้เร่งไปก่อนหน้า ประกอบกับการใช้จ่ายภาครัฐหดตัวจากทั้งรายจ่ายประจำและรายจ่ายลงทุน ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงตามหมวดอาหารสดและหมวดเงินเฟ้อพื้นฐาน ขณะที่หมวดพลังงานเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันเบนซิน ด้านตลาดแรงงานฟื้นตัวต่อเนื่อง สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลจากดุลการค้า ประกอบกับดุลบริการ รายได้ และเงินโอนขาดดุลลดลงตามการส่งกลับกำไรและรายจ่ายภาคบริการที่ลดลง
โฆษก ธปท. กล่าวถึงแนวโน้มเดือน ต.ค. คาดว่าเศรษฐกิจยังคงขยายตัวตามอุปสงค์ในประเทศและภาคการท่องเที่ยว สำหรับในระยะต่อไปยังต้องติดตามการฟื้นตัวของภาคการส่งออกสินค้า นโยบายของรัฐบาล ผลกระทบของเอลนีโญต่อผลผลิตและราคาสินค้าเกษตร รวมถึงผลกระทบจากความขัดแย้งของกลุ่มฮามาสอิสราเอลต่อราคาพลังงานและอุปสงค์ต่างประเทศ.-สำนักข่าวไทย